fbpx

กรีดร้องกลางดึก : ฝันร้ายจากจิตใจอันบอบช้ำของเด็กในกาซ่าที่ต้องเผชิญความรุนแรงของอิสราเอลตลอดหลายปีที่ผ่านมา

ขณะที่ฉนวนกาซ่ากำลังอยู่ในช่วงฟื้นฟูจากการโจมตี 11 วันของอิสราเอล เหล่าแม่ๆ ชาวปาเลสไตน์และเจ้าหน้าที่ด้านสุขภาพจิตต่างก็กังวลว่า ผลกระทบทางจิตใจจากความรุนแรงจะยังคงฝังลึกอยู่ในตัวเด็กๆ

การโจมตีทางอากาศและปืนใหญ่ของอิสราเอลคร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์ไป 253 คนเป็นเด็กจำนวน 66 คน มีผู้บาดเจ็บมากกว่า 1,900 คน นอกจากนั้นยังทำลายที่พักอาศัยแบบพังยับเยินไป 1,800 ยูนิต และเสียหายบางส่วนอีกอย่างน้อย 14,300 ยูนิต นั่นทำให้ชาวปาเลสไตน์ในกาซ่าหลายหมื่นคนจำเป็นต้องไปพักพิงในโรงเรียนขององค์การสหประชาชาติ

แม้ว่าจะมีการหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและฮามาสไปล้วเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม แต่หลายครอบครัวยังคงต้องทนทุกข์ทรมาน และส่วนใหญ่ของพวกเขาเหล่านั้นต่างก็เคยได้รับผลกระทบมาแล้วจากการโจมตี 51 วันของอิสราเอลในปี 2014 ที่คร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์ไปมากกว่า 2,200 คน ซึ่งในจำนวนนั้นมีเด็ก 500 คน

Hala Shehada คุณแม่วัย 28 ปีจากตอนเหนือของฉนวนกาซ่าบอกว่า การโจมตีทางอากาศที่เริ่มขึ้นอีกครั้งเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ทำให้ความทรงจำอันโศกเศร้าเกี่ยวกับการโจมตีของอิสราเอลในปี 2014 ย้อนกลับมาหลอกหลอนเธอ ราวกับว่าเพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อวาน

“ความไม่พอใจครั้งล่าสุดในฉนวนกาซาทำให้ฉันย้อนกลับไปสู่ความทรงจำที่มืดมนที่สุดเมื่อหกปีก่อนเมื่อสามีของฉันถูกฆ่า” Shehada กล่าว

Shehada เพิ่งแต่งงานได้ไม่นานและยังตั้งครรภ์ได้สี่เดือนในวันที่ Khaled Hamad สามีนักข่าวของเธอถูกสังหารจากการโจมตีของอิสราเอลเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2014 ซึ่งในวันนั้นมีชาวปาเลสไตน์อย่างน้อย 67 คนเสียชีวิตและบาดเจ็บอีกหลายร้อยคน

“การใช้ชีวิตในฉนวนกาซ่าหมายถึงการต้องหวนนึกถึงความเจ็บปวดครั้งแล้วครั้งเล่า สงครามเป็นสิ่งที่น่าเกลียดที่สุดในโลก และสงครามที่แท้จริงคือสงครามที่คุณต้องอยู่กับความทรงจำของคุณ” Shehada เล่าถึงประสบการณ์ของเธอในสงครามทั้งสองครั้ง

ฝันร้ายต่อเนื่อง

ส่วนที่เลวร้ายที่สุดของการโจมตีครั้งล่าสุดคือ “การเป็นแม่ที่ควรทำให้ลูกสาวสงบได้ แต่กลับทำไม่ได้” Shehada กล่าว

“มันยากมากที่จะเป็นแม่ในกาซ่า ฉันรู้สึกกลัวตัวเอง สภาพจิตใจของลูกสาวของฉันแย่ลงอย่างรุนแรง ในช่วงการโจมตีเธอร้องไห้โวยวายเมื่อได้ยินเสียงระเบิด” Shehada กล่าว

“แม้ตอนนี้จะมีการหยุดยิง Toleen (ลูกสาวของเธอ) ก็ต้องทนทุกข์ทรมานจากฝันร้าย เธอตื่นขึ้นมาด้วยเสียงกรีดร้องกลางดึก ฉันพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อปลอบโยนเธอ แต่มันทำให้ฉันแทบตายที่เห็นเธอเป็นแบบนี้” เธอกล่าวเสริมพร้อมเสียงร้องสะอื้น

เช่นเดียวกับคุณแม่หลายคนในฉนวนกาซ่า Shehada กล่าวว่าทั้งเธอและลูกสาวต้องได้รับการฟื้นฟูทางจิตใจ “ไม่ว่าอะไรก็ตามที่ฉันสามารถเอาชนะได้ในในปี 2014 มันได้กลับมาหลอกหลอนฉันอีกครั้ง” เธอกล่าว

แต่เพราะในฉนวนกาซ่าขาดแคลนการช่วยเหลือด้านสุขภาพจิต Shehada บอกว่าคนส่วนใหญ่ที่นี่จึงต้องรับมือกับการเจ็บปวดอย่างเดียวดาย “พอเห็นความทุกข์ทรมานของลูก ฉันเลยสงสัยว่ามีเด็กกี่คนในฉนวนกาซ่าที่ต้องทนทุกข์ทรมานตลอดช่วงชีวิตจากบาดแผลของสงคราม” Shehada กล่าว

ความพยายามเข้มแข็งของพ่อแม่

Reem Jarjour แม่ของลูกสามคนและนักสังคมสงเคราะห์ วัย 30 ปี บอกว่าเธอพยายามเข้มแข็งเพื่อลูกๆ ของเธอตั้งแต่การโจมตีของอิสราเอล

“เด็กๆ ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสุขภาพจิตของพ่อแม่ สามีของฉันและฉันจึงพยายามอย่างหนักที่จะซ่อนความบอบช้ำของเราต่อหน้าพวกเขา” Jarjour ซึ่งแม่ของเด็กอายุ 6 ขวบ 5 ขวบ และทารกอายุ 5 เดือนกล่าว

“ฉันพยายามประยุกต์ใช้สิ่งที่เรียนรู้ในฐานะนักสังคมสงเคราะห์โดยให้พวกเขายุ่งอยู่กับกิจกรรมต่างๆ เช่นการวาดภาพระบายสี” แต่ก็ไม่ได้ผล เธออธิบาย

เมื่ออาคาร Al-Jawhara ที่พ่อของเธออาศัยอยู่ตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีของอิสราเอลเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม เธอรู้สึกแย่มาก

“ฉันร้องไห้น้ำตานองเมื่อคิดถึงพวกเขา ฉันไม่สามารถติดต่อพวกเขาได้ด้วยซ้ำเพราะความวุ่นวายทั้งหมดในเวลานั้น แต่สิ่งที่บังคับให้ฉันหยุดคือการเห็นลูกๆ มองมาขณะที่ฉันร้องไห้ ฉันรู้สึกว่าฉันต้องเข้มแข็งเพื่อพวกเขา” Jarjour กล่าว

Jarjour และสามีของเธอตัดสินใจนอนห้องเดียวกันกับลูกๆ ตลอดช่วงเวลาของการโจมตีเพื่อพยายามปลอบโยนและสร้างความมั่นใจให้กับพวกเขา “ฉันไม่เคยทิ้งพวกเขาไว้ตามลำพัง แต่ฉันรู้โดยมองเข้าไปในดวงตาของพวกเขาว่าพวกเขากลัว เด็กๆ รู้ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวพวกเขา” เธอกล่าว

Jarjour บอกว่า แม่หลายคนในฉนวนกาซ่าบ่นว่าอาการบอบช้ำทางจิตใจเริ่มปรากฏในลูกๆ ของพวกเขาเช่นกัน “เพื่อนของฉันบอกฉันว่าลูกๆ ของพวกเขาสูญเสียความอยากอาหารในขณะที่คนอื่นๆ มีปัญหาเช่นความผิดปกติของการพูดและการปัสสาวะรดที่นอน” เธออธิบาย

“ทุกคนสูญเสียความเข้มแข็งในสงครามครั้งนี้รวมทั้งผู้ปกครองด้วย เด็กๆ เป็นตัวเชื่อมที่อ่อนแอที่สุด มันเป็นเรื่องที่โหดร้าย” Jarjour ผู้ซึ่งหวังว่าโปรแกรมการดูแลสุขภาพจิตเฉพาะทางจะเปิดตัวในเร็วๆ นี้ทั่วฉนวนกาซ่าเพื่อช่วยเหลือเด็กและผู้ปกครองของพวกเขา

การบอบช้ำทางจิตใจ ‘ไม่ใช่เรื่องใหม่’

Ghada Redwan นักจิตบำบัดจาก Palestine Trauma Centre UK กล่าวว่าหลายครอบครัวในฉนวนกาซ่าติดต่อกับศูนย์ดังกล่าวในช่วงการโจมตี เพื่อขอความช่วยเหลือด้านสุขภาพจิตสำหรับลูกๆ ของพวกเขา

Redwan เสนอการฝึกแบบเฉพาะเจาจง ที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตใช้กันอย่างแพร่หลายในการรักษาการบอบช้ำทางจิตใจใจและภาวะป่วยทางจิตจากเหตุการณ์รุนแรงหรือ PTSD เธอจัดเตรียมเทคนิคต่างๆ ให้กับครอบครัวและเด็กๆ เพื่อช่วยให้พวกเขารับมือกับการบอบช้ำทางจิตใจที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

“มีหลายครอบครัวที่ต้องทนทุกข์ทรมานจากความตื่นตระหนกอย่างรุนแรงและความหวาดกลัวอย่างรุนแรง นอกจากนี้ยังมีเด็กที่มีอาการทางจิตใจที่แสดงอารมณ์รุนแรงและอาเจียน” Redwan กล่าว

พวกเขาแนะนำให้คุณแม่พยายามสงบสติอารมณ์ต่อหน้าลูกๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระหว่างการทิ้งระเบิดซึ่งเห็นได้ชัดว่าพูดง่ายกว่าทำ

Redwan กล่าวว่า การจัดการกับบอบช้ำทางจิตใจหลังการโจมตีของอิสราเอลไม่ใช่เรื่องใหม่ในฉนวนกาซ่า ความสามารถในการช่วยเหลือก็มีจำกัด ในขณะที่จำนวนผู้ที่ต้องการการดูแลก็มหาศาล

‘ช่องว่างขนาดใหญ่ในบำบัด’

สภาผู้ลี้ภัยแห่งนอร์เวย์ (NRC) ระบุว่าเด็กจำนวน 12 จาก 66 คนที่เสียชีวิตจากการโจมตีทางอากาศครั้งล่าสุดของอิสราเอล เป็นสมาชิกโครงการนี้จากการบอบช้ำทางจิตใจที่เกิดจากงสงครามครั้งก่อน

เด็กๆ ที่รอดชีวิตจากการโจมตีมีแนวโน้มที่จะผวากับประสบการณ์การทิ้งระเบิดในทุกคืน NRC กล่าวในแถลงการณ์ล่าสุด ซึ่งระบุด้วยว่า เด็กๆ ในฉนวนกาซ่ามีอาการฝันร้ายเฉลี่ย 5 ครั้งต่อสัปดาห์

Hozayfa Yazji ผู้จัดการพื้นที่ฉนวนกาซ่าของ NRC กล่าวว่าสถิติดังกล่าวเน้นให้เห็นถึงความทุกข์ทรมานของเด็กเป็นจำนวนมากจากการโจมตีฉนวนกาซ่ารอบล่าสุด

Yazji บอกว่า NRC ได้ทำงานร่วมกับโรงเรียน 118 แห่งโดยให้การสนับสนุนเด็กๆ 75,000 คนนับตั้งแต่เริ่มให้บริการบำบัดอาการบอบช้ำทางจิตใจสำหรับเด็กในฉนวนกาซ่าในปี 2012

“แต่ตอนนี้เราเผชิญกับช่องว่างในการให้บริการช่วยเหลือด้านจิตใจขนาดใหญ่ หลังจากการรุกรานครั้งล่าสุด คาดว่าจำนวนเด็กที่ต้องการบำบัดจิตใจจะเพิ่มเป็นสามเท่า” เขากล่าว

คือความจำเป็นเร่งด่วน

Yazji บอกว่า ประสบการณ์อันเลวร้ายทางมนุษยธรรมที่เด็กๆ ต้องพบเจอในฉนวนกาซ่าทำให้สุขภาพจิตของพวกเขาแย่ลง แต่การโจมตีของอิสราเอลสร้างผลกระทบเลวร้ายที่สุดต่อเด็ก

การปิดล้อมพื้นที่ชายฝั่งของอิสราเอลมาแล้ว 14 ปีทำให้ระดับความยากจนเพิ่มขึ้นไปที่ร้อยละ 50 ของจำนวนประชากร อัตราการว่างงานร้อยละ 55 และระบบการรักษาพยาบาลที่ทรุดโทรมล้วนยิ่งทำให้ความทุกข์ทรมานของเด็กๆ เพิ่มขึ้น

เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีคิดเป็นร้อยละ 45 ของประชากรในฉนวนกาซา “สิ่งนี้ทำให้ความช่วยเหลือด้านการเยียวยาทางจิตใจเป็นสิ่งจำเป็นเร่งด่วน” Yazji กล่าว

เขากล่าวว่าอย่างน้อยร้อยละ 90 ของชาวกาซ่าต้องการการสนับสนุนและการรักษาด้านสุขภาพจิต เนื่องจากการโจมตีทางทหารซ้ำแล้วซ้ำเล่าและปัจจัยด้านมนุษยธรรมที่เลวร้ายในฉนวนกาซ่า

“ความต้องการนั้นเกินความสามารถของเรา เรากำลังทำงานร่วมกับองค์กรภาครัฐและองค์กรระหว่างประเทศหลายแห่งเพื่อขยายโครงการของเรา” Yazji กล่าวเสริมว่าสภาฯ หวังที่จะฝึกอบรมผู้คนจำนวนมากขึ้นเพื่อสามารถรองรับการสนับสนุนด้านสุขภาพจิตได้ทั่วฉนวนกาซ่า


อ้างอิง : Al Jazeera – ‘Wake up screaming’: Gaza’s children traumatised by Israeli war – https://bit.ly/3wKys5r

อ่านเรื่องนี้แล้วคิดอย่างไร ?

About author View all posts Author website

Halal Life

Halal Life สื่อออนไลน์ที่นำเสนอแนวคิด และองค์ความรู้ที่ฮาลาล ผ่านเรื่องราว ผ่านมุมมอง และผ่านประสบการณ์ของหลากหลายผู้คน เพื่อเชื่อมโยงผู้คนที่ใช้ชีวิตในแบบฮาลาลเข้าไว้ด้วยกัน