fbpx

อคติเหมารวมคือการกดขี่ผู้หญิงมุสลิม

หนึ่งในคำสอนของอิสลามที่ถูกเข้าใจผิดมากที่สุดคือการปฏิบัติต่อสตรีมุสลิมด้วยท่าทีที่ค่อนข้างข่มเหงและทารุณ ชาวตะวันตกมักมองว่าผู้หญิงมุสลิมถูกลิดรอนสิทธิ์ของตน ด้วยการนำเสนอภาพของสตรีมุสลิมในฐานะที่ตกอยู่ภายใต้คำสั่งของผู้ชายอย่างร้อยเปอร์เซ็นต์ และเหมารวมด้วยอคติว่าพวกเธอถูกกดขี่และมีสิทธิ์เพียงไม่กี่อย่าง

แม้จะถูกมองในด้านลบเกี่ยวกับสิทธิสตรี แต่อิสลามกลับเป็นศาสนาแรกที่มอบสิทธิ์ให้กับสตรีตั้งแต่เมื่อ 1,400 กว่าปีที่แล้ว ในขณะที่ผู้หญิงจากโลกตะวันตกจำนวนมากในศตวรรษที่ 21 ยังคงดิ้นรนเพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิ์เหล่านั้น

ในบางวัฒนธรรมและบางครอบครัว ทั้งจากตะวันออกและตะวันตก ผู้หญิงยังคงมีสถานะต่ำต้อย ไม่มีอำนาจและคุณค่าในการใช้ชีวิต หลายประเทศในโลกตะวันตกโอ้อวดและยกย่องสิทธิสตรี รวมไปถึงปลุกกระแสการเรียกร้องสิทธิ์ให้กับสตรี แต่ถึงกระนั้น เราก็ยังได้เห็นความไม่เป็นธรรมและความไม่เท่าเทียมกันในสังคมเหล่านั้น

ไม่นานมานี้ ในช่วงระหว่างการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ความเกลียดชังผู้หญิงที่ฝังลึกอยู่ในสถาบันทางการเมืองได้ทำให้สิทธิสตรีต้องถอยหลังลงคลอง เมื่อเหล่าผู้สมัครหญิงถูกดูถูกและตั้งคำถามถึงความสามารถของพวกเธอ อเมริกาเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วและเป็นประเทศแรกที่ประกาศว่า พวกเขาเป็นประเทศเปิดกว้างที่ให้ความสำคัญกับเสรีภาพและความเท่าเทียมอย่างจริงจัง แต่พวกเขากลับมองไม่เห็นความอยุติธรรมที่พวกเขาสร้างขึ้นจากอคติทางเพศดังกล่าว

ในศาสนาอิสลาม ถ้าผู้หญิงจะถูกกีดกันจากการทำงานบางอย่างนั่นไม่ใช่เพราะว่าพวกเธอไร้ความสามารถ แต่เป็นเพราะพระผู้เป็นเจ้าได้แบ่งหน้าที่ของชายและหญิงไว้อย่างเท่าเทียมกัน โดยคำนึงถึงบทบาทที่เหมาะสมสำหรับผู้หญิงและผู้ชาย ซึ่งไม่เกี่ยวกับสิทธิ์ของพวกเขา มากไปกว่านั้น ในศาสนาอิสลามผู้หญิงยังมีสิทธิ์ในเงินของตนเอง และมีอิสระในการทำงาน เธอมีสิทธิ์ในการหา ครอบครอง และจำหน่ายทรัพย์สินโดยที่ผู้ชายไม่มีสิทธิ์ครอบงำหรือแทรกแซง

อัลลอฮ์ได้กล่าวไว้ในคัมภีร์อัลกุรอานว่า

“สำหรับผู้ชายนั้นมีส่วนได้รับจากสิ่งที่พวกเขาได้ขวนขวายไว้ และสำหรับหญิงนั้นก็มีส่วนได้รับจากสิ่งที่พวกนางได้ขวนขวายไว้ และพวกเจ้าจงขอต่ออัลลอฮฺเถิด จากความกรุณาของพระองค์ แท้จริงอัลลอฮฺทรงรอบรู้ในทุกสิ่งทุกอย่าง” (4:32)

นอกจากนั้น อัลลอฮ์ยังได้ทรงตักเตือนเหล่าบรรดาผู้ชายที่กดขี่หรือปฏิบัติต่อผู้หญิงด้วยการไม่ให้เกียรติท่ามกลางประวัติศาสตร์แห่งความเกลียดชังผู้หญิง ท่านศาสนทูตมูฮัมมัดได้เผยแผ่สาสน์ที่มีความสำคัญยิ่งในเรื่องความโปรดปรานและเกียรติของสตรี ท่านยกย่องและรักษาสิทธิ์ของสตรี และยกสถานะของเธอให้สูงขึ้นกว่าเดิม

โองการสำคัญในอัลกุรอานสอนเราถึงสถานะและสิทธิ์ของผู้หญิง โดยอัลลอฮ์ได้กล่าวว่า

“ผู้ศรัทธาทั้งหลาย! ไม่อนุมัติแก่พวกเจ้าการที่พวกเจ้าจะเอาบรรดาหญิงเป็นมรดกด้วยการบังคับ และไม่อนุมัติเช่นเดียวกันการที่พวกเจ้าจะขัดขวางบรรดานางเพื่อพวกเจ้าจะเอาบางส่วนของสิ่งที่พวกเจ้าได้ให้แก่พวกนาง นอกจากว่าพวกนางจะกระทำสิ่งลามก อันชัดแจ้งเท่านั้น และจงอยู่ร่วมกับพวกนางด้วยดี หากพวกเจ้าเกลียดพวกนาง ก็อาจเป็นไปได้ว่า การที่พวกเจ้าเกลียดสิ่งหนึ่งขณะเดียวกันอัลลอฮฺก็ทรงให้มีในสิ่งนั้น ซึ่งความดีอันมากมาย” (4:19)

แม้ว่าผู้หญิงในศาสนาอิสลามจะมีอิสรภาพทางการเงินและไม่ต้องรับผิดชอบใดๆ ต่อรายจ่ายของครอบครัว แต่เธอก็มีสิทธิ์ที่จะทำงานและประกอบอาชีพหากเธอมีความต้องการ และแม้ว่าผู้ชายและผู้หญิงจะถูกสร้างขึ้นมาอย่างเท่าเทียมกันในสายตาของพระผู้เจ้า แต่ผู้หญิงนั้นได้รับความไว้วางใจให้เลี้ยงดูลูกของเธอให้มีพื้นฐานอิสลามที่เข้มแข็ง มีการศึกษาทางโลกที่ดี เพื่อให้ลูกๆ ของเธอเป็นคนดีที่มีศักยภาพในการช่วยเหลือมนุษยชาติ

ทั้งสองเพศนั้นเท่าเทียมกันในสายตาของพระเจ้า แต่ถึงกระนั้นบทบาทหลักของทั้งสองเพศก็แตกต่างกัน นั่นอาจทำให้บางอาชีพหรือหน้าที่การงานส่งผลกระทบต่อบทบาทหลักของพวกเขาและเธอ ทั้งผู้หญิงและผู้ชายสามารถประกอบอาชีพของตนได้อย่างเต็มที่ ตราบใดที่หน้าที่หลักของเขาและเธอไม่บกพร่อง


แปลและเรียบเรียงโดย : Halal Life Magazine
ที่มา : MUSLIM GIRL – WHY STEREOTYPES ARE OPPRESSIVE TO MUSLIM WOMEN

About author View all posts Author website

Halal Life

Halal Life สื่อออนไลน์ที่นำเสนอแนวคิด และองค์ความรู้ที่ฮาลาล ผ่านเรื่องราว ผ่านมุมมอง และผ่านประสบการณ์ของหลากหลายผู้คน เพื่อเชื่อมโยงผู้คนที่ใช้ชีวิตในแบบฮาลาลเข้าไว้ด้วยกัน