fbpx

คุยกับ “เชฟบัง” เชฟฮาลาลมืออาชีพแห่งร้าน “The Bung”

“ เคยเป็นเชฟมาหลายโรงแรม ทั้งในประเทศและต่างประเทศ จนวันนึงมีความคิดที่ว่า ผมจะเป็นเชฟมุสลิม…ที่ทำร้านสเต็กแบบนี้ให้ได้ ”

นี่คือความมุ่งมั่นของ “เชฟบัง” หรือ คุณอานัส ยงค์ฤทธิ์ เชฟเจ้าของร้านอาหารฮาลาลฟิวชั่น The Bung ย่านคู้ขวา เชฟมุสลิมที่มีประสบการณ์คลุกคลีอยู่ในครัวของโรงแรมชื่อดังมากมายในกรุงเทพฯ และยังเคยเป็นเชฟไทยในร้านอาหารที่เยอรมันและกรีซ เส้นทางอาชีพของเชฟบังนั้นแสนจะโหด มันส์ และฮา โดยเริ่มต้นจากการเรียนจบ “วิศวะไฟฟ้า”

ใช่แล้ว คุณอ่านไม่ผิดแน่นอน

“คุณแน่ใจแล้วใช่ไหมที่จะทำงานในครัว ทำไมไม่ไปแผนกช่าง?” คำถามที่เต็มไปด้วยความสงสัยของเชฟโรงแรมแห่งหนึ่งถูกเอ่ยออกมา หลังจากเห็นใบสมัครงานของเชฟบังคนนี้ ผู้ซึ่งจบสายวิศวะกรรมไฟฟ้า

“ผมชอบทำอาหาร ตอนแรกก็ยังไม่รู้ตัวหรอก รู้แต่ว่ามันสนุก มันมีความสุขมาก” เชฟบังเล่าให้เราฟังด้วยใบหน้าที่อิ่มเอม

“ตอนนั้นพอเรียนจบสายวิศวะ เข้ากรุงเทพฯ มาเพื่อจะเรียนต่อ เรามองที่การไฟฟ้าฯ เอาไว้ อยากทำที่นั่นมาก เลยเรียนต่อที่ม.รามฯ สาขาไฟฟ้า จากนั้นก็มีญาติก็มาแนะนำว่าให้เรียนไปด้วยทำงานไปด้วย เลยได้เข้าไปทำงานในครัวของโรงแรมในตอนนั้น”

“เข้าไปทำงานวันแรกตื่นเต้นมาก อะไรก็ไม่รู้น่าตื่นตาตื่นใจไปหมด มันอาจดูธรรมดาสำหรับคนที่ทำงานในนี้ แต่สำหรับผมมันแปลกใหม่ มันน่าเรียนรู้ น่าสนใจไปหมด แต่ละวันได้ทำอะไรไม่ซ้ำกันเลย เริ่มการจากเข็นผัก เบิกของ เตรียมของให้เชฟ ก็ทำอยู่อย่างนั้นเป็นเวลาปีครึ่งจึงได้บรรจุ เริ่มได้ลงกระทะกับเขาแล้ว”

เชฟบังเริ่มต้นจากการทำในส่วนของ “ครัวเย็น” ซึ่งเป็นเซคชั่นหนึ่งของงานครัว ดูแลเรื่องการทำผัก สลัด การปรุงซอส ด้วยความขยันและตั้งใจทำให้เชฟส่งเขาเข้าไปทำงานในส่วนที่ท้าทายขึ้น

“จากที่ทำอยู่ในครัวเย็น ก็ไม่รู้ว่าเขาเห็นอะไรในตัวเรา จึงเรียกให้ออกไปทำในส่วนของครัวฝรั่ง ได้เห็นของเยอะมาก สนุกมาก ยิ่งชอบเข้าไปอีก”

เชฟบังเล่าถึงการทำงานในครัวส่วนต่างๆ ให้เราฟัง และแน่นอนว่า เราสัมผัสได้ถึงความสุขของเขาในตอนนั้นจริงๆ

“พอทำไปเรื่อยๆ เราได้เห็นงานในส่วนของ à la carte (อาหารตามสั่งจากเมนู) เห้ย มันน่าสนใจมาก อยากทำบ้าง ผมเลยเข้าไปหา เพราะอยากเรียนรู้ หลังเลิกงานไม่กลับบ้านแต่ไปป้วนเปี้ยนแถวๆ นั้น ดูเขาทำ ช่วยเขาจัด มันสนุกมาก ”

มีคำถามนึงผุดขึ้นมาระหว่างการสนทนา คือการเป็นมุสลิมในครัวที่ต้องเจอวัตถุดิบที่ผิดต่อหลักการศาสนา เชฟบังมีวิธีจัดการมันยังไง

“ยอมรับว่าตอนแรกลำบากมาก เราพยายามเลี่ยงให้ได้มากที่สุด จะใส่ถุงมือตลอดถ้าต้องจับสิ่งต้องห้าม แต่ผมโชคดีมากนะที่ได้เพื่อนร่วมงานที่เข้าใจ ถ้าเป็นวัตถุดิบที่เราทำไม่ได้ เขาจะแบบเห้ย มาๆ เดี๋ยวทำเอง บังไปทำอย่างอื่น ซึ่งเพื่อนจะช่วยเราตลอด”

เมื่อตำแหน่งของเขาสูงขึ้นเรื่อยๆ จึงทำให้ไม่ต้องลงมือประกอบอาหารเองแล้ว เพราะได้มาเป็นคนคุม คนดูแล ซึ่งทั้งหมดเชฟบังบอกว่า ต้องใช้ความอดทนอย่างมาก กว่าจะผ่านมาได้

“แล้วไปทำงานที่ต่างประเทศได้ยังไง?” เราถามเชฟบังต่อ

“มีคนมาติดต่อให้เราไปเป็นเชฟไทยที่เยอรมัน พอรู้ปุ้ป เราไม่คิดอะไรเลย ลุยเลย โหด มันส์ ฮา มาก ทำอยู่ 5 ปี ได้กลับบ้านแค่ครั้งเดียว ที่นั่นทุกอย่างเป็นระเบียบหมด เขาเข้มงวดเรื่องวินัยมาก ได้อะไรเยอะมาก ความอดทน การทำงาน ความสะอาด การแต่งตัว” เชฟบังเล่าด้วยรอยยิ้มจริงใจ

“กลับมาจากเยอรมันก็ได้เข้าไปทำในส่วนของสเต็กที่โรงแรมแห่งนึง เห็นครั้งแรกก็รู้แล้วว่า นี่ล่ะ! อยากทำแบบนี้ อยากมีแบบนี้ ผมต้องเป็นเชฟมุสลิม ที่ทำร้านเสต็กแบบนี้ให้ได้!”

เขาพูดถึงความฝันของเขาในตอนนั้น ที่มันได้เกิดขึ้นจริงแล้วในวันนี้

“ผมก็เก็บความฝันนั้นไว้ก่อน แล้วทำงานเก็บความรู้ เก็บประสบการณ์ไปเรื่อยๆ จากหลายๆ โรงแรม จนถึงจุดนึงที่คิดว่า มันถึงเวลาละ! ต้องมีร้านของตัวเองสักที!”

ร้าน The Bung ที่เราฟังชื่อครั้งแรกก็พอจะเดาออกแล้วว่าจะเป็นร้านของบังอะไรสักอย่าง และต้องเป็นร้านมุสลิมแน่ๆ เพราะอยู่ในเส้นคู้ขวา เชฟบังเล่าถึงความพิถีพิถันในการ “สร้าง” ร้านนี้ขึ้นมา จากประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างมากมาย

“ทุกอย่างที่เข้ามาในร้านต้องมีตราฮาลาล และเราต้องรู้ถึงแหล่งผลิตทั้งหมด อย่างขาแกะที่รับประกันว่าฮาลาล แต่ที่แพ็คเกจมันไม่มี เราโทรไปถามที่บริษัทเลย ให้เขาส่งตราฮาลาลให้ดู เราต้องมั่นใจในวัตถุดิบจริงๆ”

“โชคดีอีกอย่างที่ร้านอยู่ในแหล่งชุมชนมุสลิม ฉะนั้นเนื้อวัว เนื้อไก่ เรารู้แหล่งที่มาชัดเจนทั้งหมด รู้ว่าที่นี่เขาฮาลาล รู้ว่าโรงงานนี้เขาเป็นมุสลิมตั้งแต่รุ่นพ่อแม่แล้ว มันก็ทำให้เราสบายใจ”

ข้อได้เปรียบจากการทำงานในครัวระดับมาตรฐานของโรงแรมชื่อดังมากมาย ทำให้เชฟบังคนนี้นำมาปรับใช้กับร้านสเต็กของเขา เพราะเขาอยากให้มุสลิมได้ทานอาหารคุณภาพที่ใส่ทั้งใจและฝีมือลงไป

“ผมได้เข้าอบรม HACCP เป็นคุณภาพในการประกอบอาหารที่ทุกโรงานต้องมี ซึ่งเราได้ประโยชน์จากการอบรมนี้มาเต็มๆ ทั้งเรื่องของการเก็บรักษาวัตถุดิบ ของสด ของทะเล ผัก ของแช่แข็ง อุณหภูมิต่างๆ ที่ใช้ในการปรุง เราเอาความรู้ตรงนี้มาใช้กับร้านทั้งหมด”

แล้วเชฟบังคิดว่าอะไรคือสิ่งที่ผู้ประกอบการร้านอาหารฮาลาลควรต้องมี

“สิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำอาหารคือความสะอาด โดยเฉพาะมุสลิมเรา ทุกอย่างต้องถูกหลักการ ใส่ใจทุกรายละเอียด ที่สำคัญไม่แพ้กันคือบรรยากาศในร้านและการให้บริการ ร้านต้องน่านั่งและพนักงานรวมถึงเจ้าของร้านอย่างผมต้องยิ้มแย้มตลอด”

เราเชื่อแล้วว่าเชฟบังไม่ได้โกหก เพราะบรรยากาศภายในร้าน The Bung นั้นไม่ได้ผิดจากที่บอกไว้จริงๆ แอร์เย็นฉ่ำกับแสงไฟโทนอบอุ่น ที่ชวนให้นั่งได้อย่างสบาย แถมยังมีมุมเล็กๆ ไว้ให้เด็กๆ ได้วาดภาพระบายสี ส่วนรสชาติอาหารของเชฟผู้มากประสบการณ์คนนี้จะเป็นอย่างไรนั้น ต้องมาลิ้มลองกันเอง

 

ร้าน The Bung ตั้งอยู่ติดถนนคู้ขวา(ราษฎร์อุทิศ) มีนบุรี ระหว่างซอยราษฎร์อุทิศ 27/1 -27/2 เปิดเวลา 11.00 – 21.00 น. หยุดทุกวันพฤหัส มีห้องละหมาด
Facebook : The BUNG Halal Food
โทรศัพท์ : 083-221-2404

อ่านเรื่องนี้แล้วคิดอย่างไร ?

About author View all posts

Azlan

กองบรรณาธิการรุ่นเล็ก