fbpx

Mehray Mezensof คือหญิงชาวเมลเบิร์นประเทศออสเตรเลีย เธอแต่งงานมาแล้วห้าปีแต่แทบไม่เคยได้อยู่กับสามีเลย เพราะเขาต้องถูกจับเข้าและปล่อยออกจากค่ายกักกันในเขตซินเจียงทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีนหลายต่อหลายครั้ง

เธอไม่เคยเปิดเผยเรื่องราวของสามีในที่สาธารณะมาก่อน เพราะกลัวว่าจะทำให้สถานการณ์ที่ของสามีเธอเลวร้ายมากขึ้นไปอีก แต่เธอก็ถูกผลักเข้าสู่จุดแตกหักและบีบให้ต้องออกมาพูดเรื่องนี้กับสื่อ เมื่อได้รับข่าวร้ายว่าสามีของเธอถูกตัดสินจำคุก 25 ปีในข้อหา “แบ่งแยกดินแดน”

“มันไร้สาระ สามีของฉันไม่เคยทำอะไรแบบนั้น” เธอบอก “นี่ไม่ใช่หนัง แต่มันกำลังเกิดขึ้นจริง”

Mehray Mezensof เกิดและเติบโตในครอบครัวอุยกูร์ในออสเตรเลีย พ่อแม่ของเธออพยพมาจากซินเจียงเมื่อ 35 ปีก่อน

เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์เป็นบ้านของชาวอุยกูร์มากกว่า 11 ล้านคน ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยในภูมิภาคที่ส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมและพูดภาษาเตอร์กิก ซึ่งเป็นภาษาที่คล้ายกับภาษาตุรกี ชาวอุยกูร์และชนกลุ่มน้อยมุสลิมอื่นๆ กว่า 1 ล้านคนตกเป็นเป้าหมายที่ต้องถูกกักขังและปลูกฝังค่านิยมใหม่โดยทางการจีนมาตั้งแต่ปี 2017

หลักฐานที่แสดงให้โลกเห็นถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของจีนนั้นประกอบไปด้วย ภาพถ่ายดาวเทียมแสดงที่ตั้งของค่ายกักกัน และรายชื่อพยานที่ให้ข้อมูลการข่มขืนและทรมาน การบังคับให้ทำหมัน รวมถึงการบังคับใช้แรงงาน

กระทรวงการต่างประเทศและสื่อของทางการจีนปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยระบุว่าค่ายเหล่านี้เป็นเพียง “ศูนย์อาชีวศึกษา” และกล่าวหาว่าสื่อตะวันตกแต่งเรื่องราวเกี่ยวกับชาวอุยกูร์และซินเจียง

แต่ Mezensof รู้ความจริงเพียงข้อเดียวว่า ณ เวลานี้สามีของเธอถูกคุมขังในจีนเพียงเพราะเขาเป็นชาวอุยกูร์

ในปี 2016 เมื่อ Mezensof อายุ 22 ปี เธอได้เดินทางไปซินเจียงเป็นครั้งแรกและนั่นทำให้เธอได้พบกับนาย Taher ผู้เป็นสามี

“เราสปาร์คกันทันที… อาจฟังดูงี่เง่าและคลิเช่(เฝือๆ) หน่อยนะนะ แต่ฉันรู้สึกจริง ๆ ว่ามันคือรักแรกพบ” เธอบอก “ตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้คุยกัน ฉันก็รู้ว่าทันทีฉันต้องการใช้ชีวิตที่เหลือร่วมกับเขา เขาเป็นคนที่มีความรักความเอาใจใส่และจิตใจดี”

หลายคนกำลังหายตัวไป

หลังจากแต่งงานกันในอุรุมชี เมืองหลวงของซินเจียง เธอก็ได้ยื่นขอวีซ่าออสเตรเลียให้กับสามี และได้รับในวันที่ 1 เมษายน 2017 ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดความไม่ปกติขึ้นในซินเจียงพอดี

“ช่วงนี้เป็นช่วงที่เราได้ยินเรื่องความไม่สงบเกิดขึ้นในเมืองหลวง เราคนพูดกันปากต่อปากว่ามีคนถูกอุ้มหายไปในตอนกลางคืน พวกเขาถูกควบคุมตัวและพาไปยังสถานที่หนึ่ง แล้วเราก็จะไม่ได้ข่าวคราวพวกเขาอีก ฉันไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นได้” เธอบอก

ในช่วงต้นปี 2017 การปราบปรามของจีนต่อชาวอุยกูร์มุสลิมพุ่งสูงขึ้น สาเหตุของการจับกุมนั้นแตกต่างกันไป ซึ่งบางครั้งก็เป็นเป็นเพียงเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างการสวมฮิญาบ(ผ้าคลุมศีรษะ) การไว้เครา หรือเคยเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ

การจับกุมแบบไม่เลือกหน้าของทางการจีนทำให้เธอและสามีตื่นตระหนกและต้องการเดินทางออกจากซินเจียงให้ได้โดยเร็วที่สุด ทั้งคู่จองเที่ยวบินไปเมลเบิร์นในวันที่ 12 เมษายน แต่พวกเขากลับไม่เคยไปถึงสนามบิน

ในคืนวันที่ 10 เมษายน ก่อนวันเดินทางไม่ถึงสองวัน ทั้งคู่ต้องพบกับความหวาดกลัวอันเลวร้ายที่สุด เมื่อตำรวจมาเคาะประตูบ้าน

“พวกเขายึดหนังสือเดินทางของสามีฉัน และสิ่งแรกที่พวกเขาทำคือถามสามีของฉันว่าเคยเดินทางไปต่างประเทศใช่หรือไม่” เธอเล่า “ก่อนที่เราจะแต่งงานกัน สามีของฉันเคยเดินทางไปทำงานที่ตุรกีประมาณหนึ่งปี เมื่อได้ยินแบบนั้น ตำรวจก็ตอบกลับมาทันทีว่า โอเค เราต้องไปที่สถานีตำรวจ แล้วก็พาเขาออกไป”

เขาไม่ได้กลับมาในคืนนั้น และนั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอได้พบหน้าสามีของเธอ

หลังจากถูกตำรวจท้องที่สอบปากคำเป็นเวลาสามวัน สามีของเธอก็ถูกนำตัวไปที่ศูนย์กักตัวเป็นเวลา 10 เดือนก่อนที่จะย้ายไปค่ายกักกัน

ความสุขระยะสั้น

ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2019 สามีของเธอได้รับการปล่อยตัวโดยไม่คาดหมาย เธอจึงเดินทางไปซินเจียงอีกครั้งเพื่อพบกับคู่ชีวิตที่แทบไม่เคยได้ใช้ชีวิตร่วมกันของเธอ

“ฉันกำลังอยู่ที่ทำงานเมื่อโทรศัพท์ดังขึ้น ตอนนั้นฉันแทบจะกรี๊ดออกมาดังๆ” เธอเล่า “ฉันมีความหวังมาก ฉันมั่นใจมากว่าคราวนี้เขาจะได้กลับมาออสเตรเลียพร้อมกับฉัน”

การกลับมาพบเจอกันครั้งนี้ ทำให้เธอได้รับรู้เรื่องราวอันน่าสะพรึงกลัวที่สามีของเธอต้องพบเจอหลังกำแพงสูงของค่ายกักกัน

“เขาบอกว่ามันเป็นการล้างสมองอย่างเป็นระบบ…มันฟังดูบ้ามาก” เธอบอก “ต้องเรียนรู้เกี่ยวกับพรรคคอมมิวนิสต์จีน ต้องอ่านหนังสือ และท่องจำสุนทรพจน์”

เธอบอกว่า หลังได้รับการปล่อยตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงจับตาดูสามีของเธออย่างใกล้ชิด “พวกเขามักจะโทรหาเขาทุกครั้งที่มีโอกาส มันเป็นการเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง”

ครั้งนี้เธอพยายามเป็นอย่างมากที่จะพาสามีของเธอไปยังออสเตรเลีย แต่เธอก็ไม่สามารถขอหนังสือเดินทางของสามีคืนจากทางการจีนได้ จนกระทั่งวีซ่าระยะเวลา 6 เดือนของเธอกำลังจะหมดลง และการยื่นขอต่ออายุวีซ่าถูกปฏิเสธ นั่นทำให้เธอต้องออกจากซินเจียงและเดินทางกลับมายังออสเตรเลียเพียงลำพังอีกครั้งในปลายปี 2019

ถูกจับอีกครั้งและอีกครั้ง

เมื่อกลับมาถึงออสเตรเลีย เธอก็วางแผนจะกลับไปยังซินเจียงเพื่อพบกับสามีเธออีกครั้ง แต่แผนของเธอก็ต้องสะดุดลงจากการระบาดของโควิด-19 ทำให้เธอไม่สามารถเดินทางได้

เช้าวันที่ 19 พฤษภาคม 2020 เธอรู้สึกว่าอาจมีบางอย่างเกิดขึ้น เมื่อข้อความที่เธอส่งถึงสามีไม่ได้รับการตอบกลับเป็นเวลาหลายชั่วโมง “ฉันรู้สึกเป็นกังวล … ทุกครั้งที่ฉันส่งข้อความ เขาจะติดต่อกลับมาหาฉันเสมอ” เธอเล่า

“ฉันโทรหาเขา วิดีโอคอลหาเขา แต่เขาก็ไม่รับสาย แล้วฉันก็ได้รู้ว่า ตำรวจเข้ามาจับตัวเขาไปอีกครั้ง”

เธอบอกว่าสามีของเธอถูกควบคุมตัวอีกครั้งในวันนั้น และถูกนำตัวไปยังค่ายกักกันจนถึงวันที่ 30 สิงหาคม 2020

ถึงแม้ครั้งนี้สามีของเธอจะถูกจับไปไม่นาน แต่เพียงไม่กี่สัปดาห์ต่อมา เขาก็ถูกควบคุมตัวเป็นครั้งที่สาม แต่ครั้งนี้สามีของเธอถูกตั้งข้อหาหนักว่า “เป็นผู้นำและมีส่วนร่วมในองค์กรก่อการร้าย”

ภาพสามีของเธอขณะกำลังศึกษาเรื่องราวของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในระหว่างถูกกักขัง

ข้อหาร้ายแรง

การพิจารณาคดีสามีของเธอเกิดขึ้นในเดือนมกราคม 2021 และในวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา เขาก็ถูกตัดสินจำคุก 25 ปี “สามีของฉันถูกตัดสินจำคุก 25 ปีโดยพรรคคอมมิวนิสต์จีน ทั้งหมดเป็นเพราะเขาเคยไปใช้ชีวิตในตุรกี” เธอกล่าว

“พวกเขาตัดสินลงโทษในข้อหาการแบ่งแยกดินแดน จากเพียงแค่การไปตุรกี ที่พวกเขาอ้างว่าเป็นการไปฝึกและเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองโดยมุ่งหวังเพื่อแบ่งแยกประเทศ” เธอกล่าว “มันช่างเลวร้ายมาก เหตุผลทั้งหมดที่เขาไปตุรกีก็เพื่อพักผ่อน และเขาก็ชอบที่นั่นมาก นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาจึงตัดสินใจใช้ชีวิตและทำงานที่นั่นต่อ”

เธอยังบอกอีกว่า ทั้งตัวเธอและครอบครัวของสามีในซินเจียงไม่ได้รับเอกสารหรือคำอธิบายใดๆ จากศาลเกี่ยวกับคำพิพากษาสามีของเธอ “ฉันจำได้ว่าแค่นั่งร้องไห้และส่ายหัว”

“ตอนนี้เขาอายุ 30 แล้ว ถ้าต้องติดคุกครบ 25 ปี เขาจะอายุ 55 และฉันจะอายุมากกว่า 50 ปี นั่นมันเป็นไปไม่ได้เลย”

“ฉันโตในออสเตรเลีย เกิดและโตที่นี่ แล้วมาได้ยินอะไรแบบนี้ มันดูเหมือนไม่จริงเลย แต่ฉันจะผ่านเรื่องนี้ให้ได้”

“ชีวิตฉันไม่ควรจะเป็นแบบนี้ ฉันแค่อยากมีชีวิตปกติและน่าเบื่อเหมือนคนอื่นๆ” เธอทิ้งท้าย


อ้างอิง : ABC NEWS – Uyghur Australian woman breaks her silence as her husband is sentenced to 25 years in a Chinese jail in Xinjiang – https://ab.co/2ScLmdS

อ่านเรื่องนี้แล้วคิดอย่างไร ?

About author View all posts Author website

Halal Life

Halal Life สื่อออนไลน์ที่นำเสนอแนวคิด และองค์ความรู้ที่ฮาลาล ผ่านเรื่องราว ผ่านมุมมอง และผ่านประสบการณ์ของหลากหลายผู้คน เพื่อเชื่อมโยงผู้คนที่ใช้ชีวิตในแบบฮาลาลเข้าไว้ด้วยกัน