ถ้าเราบอกว่าไม่มีเงิน เราเป็นคนจน แต่เรายังสามารถไปกินอาหารมื้อละหลายร้อยได้สัปดาห์ละหลายครั้ง แถมยังซื้อมือถือราคาหลักหมื่นได้อีก … แบบนี้หรือป่าวที่เขาเรียกว่า “ความย้อนแย้ง” ในตัวมันเอง
ความย้อนแย้งในที่นี่คงหมายถึง สิ่งที่มันขัดแย้งกันในตัวเอง อาจระหว่างคำพูดกับการกระทำ หรือระหว่างการกระทำหนึ่งกับการกระทำหนึ่งก็ได้ … เราบอกว่าจน แต่พฤติกรรมชีวิตเรามันคนมั่งมีชัดๆ นี่คงเป็นการขัดแย้งระหว่างคำพูดกับการกระทำ ขณะเดียวกันเราละหมาดห้าเวลา แต่เรากลับหมกหมุ่นอยู่กับพฤติกรรมที่เลวร้ายอย่างยาวนาน นี้คงเป็นความย้อนแย้งระหว่างพฤติกรรมสองด้านที่ควรจะต้องไปด้วยกัน และมันหมายถึงมันกำลังมีปัญหาอะไรบางอย่างอยู่ ถึงได้เกิดสิ่งที่ขัดแย้งกันภายในได้แบบนี้
ถ้ามองแบบนี้ ความย้อนแย้งมันกลายเป็นปรากฏการณ์ที่แพร่หลายอย่างยิ่ง เรามีความรู้มากมาย แต่ฮิกมะฮฺ(วิทยปัญญา,การจัดวาง)ของเรากลับต่ำลง(ทั้งที่ความรู้และฮิกมะฮฺนั้นสัมพันธ์กัน) เราประกาศความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ แต่คนจนไม่มีอันจะกินกลับมากมายขึ้น (ตกลงเศรษฐศาสตร์หมายถึงอะไร?) เราบอกว่าอิสลามสอนความเป็นพี่น้อง แต่เราทะเลาะกันทุกวัน เราบอกมีอีหม่านแต่ไม่มีอะมัลที่ดี … ความไม่ลงตัว สอดคล้องกันระหว่างสิ่งต่างๆ ทั้งที่สิ่งเหล่านี้น่าจะเป็นเหตุเป็นผล และมีความกลมกลืนระหว่างกัน
หากความย้อนแย้งหมายถึง ความขัดแย้งในตัวเอง พวกอุดมการณ์ต่างๆ คงจะย้อนแย้งกันมากมาย … มาร์กซิสต์ที่พูดถึงความเสมอภาคและความเท่าเทียมกัน เสรีประชาธิปไตยที่วางอยู่บนคุณค่าของความเป็นมนุษย์ น่าจะเป็นสุดยอดของความย้อนแย้งในตัวมันเองเป็นแน่แท้ … กลุ่มเคลื่อนไหวอิสลามต่างๆ ก็น่าจะเจอปัญหาความย้อนแย้งกันอย่างหนักในตัวอุดมการณ์และการปฏิบัติจริง ระหว่างการปฏิบัติหลายๆ อย่างที่ขัดแย้งกันเอง
น่ากลัวว่า ความย้อนแย้งจะเกิดกับคนทั่วไปในโลกใบนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และกำลังเกิดกับระดับต่างๆ ของชีวิตมนุษย์ ตั้งแต่เรื่องในบ้าน จนถึงเรื่องการเมืองระหว่างประเทศ … ในที่สุดก็อาจจะกลายมาเป็นความคิดในแบบสองมาตรฐาน และความหน้าไหวหลังหลอก
รากฐานสำคัญที่สุดของการแก้ไขความย้อนแย้งคือ การพูดความจริงหรือความสัตย์จริง(ศิดกฺ)จะต้องถูกยกขึ้นเป็นแกนกลางในการสร้างบุคลิกภาพของผู้คน เหมือนกับที่ท่านนบีบอกว่า “แท้จริง ความสัตย์จริง นำไปสู่คุณธรรม และคุณธรรม นำไปสู่สวรรค์” … ความสัตย์จริง จะทำให้คำพูดนั้นไม่เพียงแต่เป็นความจริงที่ได้เล่าออกมา แต่มันยังเป็นสิ่งที่สอดคล้องกับการปฏิบัติที่จะตามมาด้วย
ความสัตย์จริง(ศิดกฺ) เป็นการปฏิบัติต่อคำพูดอย่างซื่อสัตย์ ทั้งตัวคำพูดก็เป็นเรื่องจริง และยังสามารถทำให้เป็นจริงในการปฏิบัติ แล้วยังสามารถทำให้การปฏิบัติต่างๆ มันสอดคล้องกลมกลืนกันได้ด้วย … ในทางตรงกันข้าม เมื่อความไม่ซื่อสัตย์ย่างกรายเข้ามา ทุกอย่างก็เริ่มสับสนอลหม่าน คำพูดกับคำพูดก็ไม่สอดคล้องกัน คำพูดกับการกระทำก็ไปด้วยกันไม่ได้ การกระทำกับการกระทำก็ขัดแย้งกันเองอย่างไม่สมเหตุสมผล
ถ้าเรารักอัลลอฮฺ ก็ต้องย่อมปฏิบัติตามวิถีทางของท่านนบี … ถ้าเราศรัทธาในอัลลอฮฺและวันสิ้นโลก เราก็ควรจะพูดแต่สิ่งที่ดีหรือไม่ก็นิ่งเสีย … ถ้าการละหมาดของเราเป็นการละหมาดจริงๆ มันจะหยุดยั้งความเลวร้ายและความต่ำทรามต่าง ๆ ได้ … ถ้าเรารู้ตัวว่าเป็นบ่าวของอัลลอฮฺ เราจะนึกถึงพระองค์อยู่เสมอ และสูญูด(กราบ)ลงไปด้วยจิตใจที่ยอมจำนน
อุดมการณ์ที่สวยหรูยังไงก็ตามเถอะ แต่ถ้าปล่อยให้ความย้อนแย้งมากมายเกิดขึ้น มันไม่อาจเป็นที่ยอมรับกันได้จริงๆ จากผู้คนในวงกว้าง ถ้าจะมีก็ฉาบฉวยมาก … อิสลามไม่ได้มีเฉพาะตัวบทจากคัมภีร์ แต่ยังมีนบีผู้ซื่อสัตย์ มีความสัตย์จริง และไว้วางใจได้ ผู้ทำให้ความย้อนแย้งไม่มีในฉากเริ่มต้นของอุดมคติของอิสลาม
โดย : อัล อัค