ผลการเลือกตั้งของประเทศมาเลเซียเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมาได้สร้างความฮือฮาให้โลกตื่นตะลึง เมื่ออดีตนายกรัฐมนตรี ดร.มหาเธร์ มูฮัมหมัด สามารถชนะการเลือกตั้งและกลับมาครองบัลลังค์บริหารประเทศได้อีกครั้ง ยึดอำนาจคืนจากนายกรัฐมนตรี นาญิบ บิน ราซัค ผู้นำที่ประชาชนเกือบทั้งประเทศเริ่มหมดศรัทธาจากคดีฉาวโฉ่เรื่องฉ้อโกงทรัพย์สินแผ่นดินคืนมาได้อย่างสง่างาม การเปลี่ยนแปลงเหนือความคาดหมายที่เกิดขึ้นจากการเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของประเทศมาเลเซียที่ชวนให้น่าติดตามและจับตามอง
แง่มุมหนึ่งที่น่าสนใจในการเปลี่ยนแปลงใหญ่ของมาเลเซียในครั้งนี้ คือการเข้ารับตำแหน่งตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี โดยสุภาพสตรีเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การเมืองมาเลเซีย โดย แพทย์หญิง วันอาซีซะฮ์ (Dr. Wan Azizah) หัวหน้าพรรค PKR ภรรยาของนายอันวาร์ อิบรอฮีม อดีตผู้นำฝ่ายค้าน สุภาพสตรีที่กำลังได้รับความนิยมสูงสุดในตอนนี้ การได้ทำความรู้จักผู้หญิงธรรมดาที่ไม่ธรรมดาที่สามารถชนะใจประชาชนทั่วประเทศได้ จึงเป็นประเด็นที่น่าหยิบยกมาบอกเล่ากันในที่นี้
มารู้จักเธอ Datuk Seri Dr. Wan Azizah Wan Ismail
1. เธอ…กับประวัติส่วนตัวที่น่าชื่นชม
แพทย์หญิง วันอาซีซะฮ์ เกิดที่ประเทศสิงคโปร์เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 1952 และเติบโตกับครอบครัวในรัฐเคดาห์ประเทศมาเลเซีย เธอจบการศึกษาระดับวิทยาลัยที่ Tunku Kurshiah College รัฐเซอเริมบัน จากนั้นศึกษาต่อในสาขาแพทยศาสตร์ที่ Royal College of Surgeons ประเทศไอร์แลนด์และได้รับรางวัลเกียรตินิยมเหรียญทองสาขาสูตินรีเวช ต่อมาเธอได้เปลี่ยนสายงานตามความถนัดด้วยการเลือกศึกษาต่อเฉพาะทางด้านสายตาจนสำเร็จการศึกษาสาขาจักษุแพทย์
แพทย์หญิง วันอาซีซะฮ์ เคยทำงานรับใช้ประชาชนในโรงพยาบาลรัฐมานานถึง 14 ปี จนกระทั่งสามีของเธอ Anwar Ibrahim ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีของมาเลเซียในปี 1993 เธอจึงตัดสินใจเปลี่ยนมารับมือด้านงานอาสา และประจำการอยู่ที่สถาบันมะเร็งแห่งชาติแทน แพทย์หญิง วันอาซีซะฮ์ มีปู่เป็นเปอรานากัน (กลุ่มคนที่ผสมระหว่างมาเลย์และจีน) ที่นับถือศาสนาอิสลาม
2. เธอ…ผู้หญิงที่เป็นทั้งแม่ของลูกและยายของหลาน
แม้แพทย์หญิง วันอาซีซะฮ์ จะเป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตาบนเวทีทางการเมือง แต่หลายคนอาจลืมไปว่าเธอก็เป็นแม่ของลูกๆ และย่ายายของหลานๆ เช่นเดียวกับผู้หญิงธรรมดาทั่วไป เธอมีลูกทั้งหมด 6 คนกับหลานอีก 9 คน
ครั้งหนึ่งลูกสาวคนโตของเธอ Nurul Izzah Anwar เคยให้สัมภาษณ์กับ The Sun หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของมาเลเซียว่าแพทย์หญิง วันอาซีซะฮ์ ไม่เคยละเลยบทบาทหน้าที่ของเธอในการดูแลครอบครัวแม้เธอจะยุ่งกับอาชีพทางการเมืองมากเพียงใดก็ตาม “ปัจจุบันพ่อแม่ของท่านยังมีชีวิตอยู่ และท่านก็ยังเป็นลูกสาวสุดรักสุดหวงของพ่อแม่ ท่านจะให้เวลากับพ่อแม่เสมอเมื่อใดที่ท่านทั้งสองต้องการ และกับลูกๆ ก็เช่นเดียวกัน” Nurul ลูกสาวคนโตของเธอเล่าให้ฟัง
3. เธอ…ผู้หญิงแกร่งที่พร้อมอุทิศตน
บางครั้งโชคชะตาก็เป็นอะไรที่น่าขัน แพทย์หญิง วันอาซีซะฮ์ ไม่เคยคิดฝันจะเป็นนักการเมืองเลยสักนิดแต่เรื่องราวชีวิตของเธอเริ่มผกผันเมื่อสามีของเธอ Anwar โดนเล่นงานทางการเมือง ถูกใส่ร้ายป้ายสีจนถูกตัดสินให้จำคุกในปี 1999 แต่แทนที่จะปล่อยให้สามีของเธอเผชิญชีวิตในคุกโดยลำพัง แพทย์หญิง วันอาซีซะฮ์ เลือกที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยสามีให้รอดพ้นจากข้อกล่าวหาต่างๆ ให้ได้
ด้วยเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจกระโดดเข้าร่วมในสังเวียนการเมืองที่รายล้อมไปด้วยมรสุมลมพายุมากมาย เธอเคยนำขบวนประท้วงเพื่อการปฏิวัติ รับหน้าที่เป็นกัปตันนำทีมภาคประชาสังคมกลุ่มองค์กรเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิและความเป็นธรรม และเริ่มก่อตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาใหม่ภายใต้ชื่อ Parti Keadilan Nasional (PKN) เพื่อขับเคลื่อนสังคมสู่อนาคตที่สดใสกว่าเดิม จนในที่สุดเธอได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งเป็นประธานพรรค ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายในปีเดียวกัน และเธอก็ทำทุกอย่างที่ว่านี้ในขณะที่เธอเป็นแม่ที่ต้องดูแลลูกๆ ในเวลาเดียวกันอีกด้วย
4. เธอ…กับเส้นทางสู่เวทีทางการเมือง
“ฉันเป็นภรรยาของนักการเมือง ฉันไม่ใช่นักการเมือง แต่สิ่งที่เกิดขึ้น โศกนาฏรรมที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของเรา มันทำให้เราเกิดศักยภาพให้ลุกขึ้นมาต่อสู้ด้วยกันในครั้งนี้” ประโยคข้างต้นคือหนึ่งในคำปราศรัยที่แพทย์หญิง วันอาซีซะฮ์ ได้กล่าวบนเวทีเสวนา ‘สู่ชัยชนะของพรรคแนวร่วมแห่งความหวัง (Pakatan Harapan)’ เมื่อปี 2017 ที่ผ่านมา เธอกล่าวต่อไปด้วยว่า สิ่งที่ทำให้เธอยังคงยืนหยัดต่อสู้อยู่จนทุกวันนี้ก็คือประชาชนที่มีเป้าหมายเดียวกันว่า เราอยากจะเห็นมาเลเซียที่ดีขึ้นกว่าเดิม
ครั้งหนึ่งในปี 1999 ขณะที่เธอนำพรรคร่วมลงแข่งขันในเวทีเลือกตั้งเป็นครั้งแรก แพทย์หญิง วันอาซีซะฮ์ สามารถประกาศชัยชนะด้วยการครองที่นั่งในรัฐสภามาได้ถึง 5 ที่นั่ง และยังได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในเขต Permatang Pauh ด้วย แพทย์หญิง วันอาซีซะฮ์ สามารถรักษาที่นั่งของเธอในรัฐสภาได้หลายสมัยนับตั้งแต่การเลือกตั้งทั่วไปในปี 2004 และ 2008 เรื่อยมา และในปี 2008 เธอได้สละตำแหน่งเพื่อเปิดทางให้ Anwar สามีของเธอที่ได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้งเสริมขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทน แต่แล้วโชคชะตาก็พาเธอกลับเข้ามาสู่เวทีทางการเมืองอีกครั้งในปี 2014 เมื่อ Anwar ถูกตัดสินจำคุกอีกครั้งเป็นเวลา 5 ปี ในครั้งนั้นเธอได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐเซอลังงอร์ในเขต Kajang ในปี 2015 เธอได้ครองที่นั่งในรัฐสภาด้วยการเป็นตัวแทน สส.เขต Permatang Pauh ในนามพรรคแนวร่วมมวลชน (Pakatan Rakyat) เรื่อยมาจนถึงการเลือกตั้งล่าสุดที่ผ่านมา
5. เธอ…ผู้หญิงอารมณ์ดีและตลกขบขัน
แม้การเลือกตั้งจะเป็นเรื่องหนักสมองชวนให้ปวดหัวอยู่บ่อยครั้ง แต่แพทย์หญิง วันอาซีซะฮ์ ก็เลือกที่จะทำให้มันเป็นเรื่องเบาสบายไม่คร่ำเครียด บางคนอาจเห็นสิ่งที่เธอโพสต์บนโลกโซเชียลเช่นอินสตราแกรมเป็นอะไรที่ดูแล้วรู้สึกจับใจ แต่ถ้ามองให้ดีมันอาจเป็นเรื่องน่าขบขันชวนหัวเราะสำหรับใครอีกหลายคนก็ได้ ครั้งหนึ่ง Nurul ลูกสาวคนโตของเธอเคยแอบนินทาถึงแม่ในเชิงติดตลกให้ฟังว่า “แม่เป็นคนที่มีอารมณ์ขันมาก ท่านชอบทำให้พวกเราหัวเราะตลอด แม่น่าจะเปิดโชว์ตลกของตัวเองได้ซักวัน”
6. เธอ…ผู้หญิงที่ไม่ปล่อยคำพูดใครเข้ามามีอิทธิพลต่อความมุ่งมั่นของเธอ
การต้องมายืนในตำแหน่งประธานพรรคและเป็นภรรยาของ Anwar ในเวลาเดียวกันนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย หลายครั้งที่สังคมมักตั้งข้อสังเกตและสร้างข้อกล่าวหาในบทบาทหน้าที่ที่เธอเป็น แต่แพทย์หญิง วันอาซีซะฮ์ ก็ยังคงแน่วแน่ในหลักการและยืนหยัดบนจุดยืนของตนเองไม่สั่นคลอน ดังเช่นกรณีการเลือกตั้งครั้งล่าสุดที่พรรคแนวร่วมแห่งความหวังออกมาประกาศเมื่อต้นปีที่ผ่านมาว่า ดร.มหาเธร์ จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีและแพทย์หญิง วันอาซีซะฮ์ จะได้เป็นรองนายกฯคนต่อไปหากพรรคได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ ประเด็นดังกล่าวทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานาว่า การที่แพทย์หญิง วันอาซีซะฮ์ เข้าไปดำรงตำแหน่งรองนายกฯนั้นก็เพื่อเป็นการ “ช่วยอุ่นที่นั่ง” เพื่อรอการกลับมาของสามีเธอมากกว่า แต่กระนั้นเธอก็ไม่หวั่นไหวหรือวิตกกังวลกับคำครหาที่ดูหมิ่นเหล่านั้น “ฉันไม่ใช่นักอุ่นที่นั่ง นักอุ่นที่นั่งมันจะเหมือนกับขวดน้ำร้อน ฉันคิดว่าฉันเป็นยิ่งกว่านั้น” เธอพูดตอบโต้ติดตลก พร้อมกล่าวเสริมด้วยว่าหากมีตัวแทนผู้หญิงเข้ามามีบทบาทในประเทศมากขึ้นก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดี
7. และเธอ…ผู้หญิงที่เชื่อมั่นในพลังแห่งสตรี
เมื่อเดือนมกราคมต้นปีที่ผ่านมา แพทย์หญิง วันอาซีซะฮ์ ได้ออกมาพูดว่า “เรามีผู้สมัครที่พร้อมด้วยคุณสมบัติมากมาย ผู้หญิงก็เป็นนายกรัฐมนตรีได้นะ มันจะผิดตรงไหน?” และอีกงานหนึ่งในเดือนเดียวกันที่เธอได้กล่าวว่า “การที่เรามีผู้หญิงเข้ามาร่วมมีบทบาทในการตัดสินใจมากขึ้น โดยเฉพาะด้านการเมือง มันจะช่วยทำให้เราสามารถเป็นพลังที่น่าจับตามองมากยิ่งขึ้น”
และนี่คือเรื่องราวและมุมมองที่น่าสนใจของผู้นำหญิงคนใหม่แห่งมาเลเซียที่น่าจับตามอง แม้ว่าการดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีของเธออาจยังไม่มีอะไรชัดเจนที่จะมาการันตีถึงความมั่นคงของประเทศในภายภาคหน้า แต่ความเป็นผู้หญิงธรรมดาที่มีลูกมีครอบครัวเช่นสตรีทั่วไป และยังสามารถมีบทบาทหลักทางการเมืองระดับประเทศได้ น่าจะเป็นความโดดเด่นที่ควรค่าแก่การชื่นชม ที่ทำให้เธอสมควรได้รับการยกย่องว่า “คือผู้หญิงธรรมดา…ที่ไม่ธรรมดา”
แปลและเรียบเรียง : Andalas Farr
ที่มา : 7 Things to know about Malaysia’s first female Deputy Prime Minister