ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกวันนี้ไม่ว่าใครก็ล้วนมีสมาร์ทโฟน และหลายคนถึงขั้นมีอาการเสพย์ติดหรือใช้ชีวิตโดยขาดสมาร์ทโฟนไม่ได้เลยทีเดียว ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัสสมาร์ทโฟนก็พาเราเข้าถึงข้อมูลต่างๆได้อย่างมากมาย ในแต่ละวันสมาร์ทโฟนของเราจะแจ้งเตือนนู่นนี่นั่นตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็น Facebook Line อีเมล์ ข่าวสาร เกมส์ รวมไปถึงแอพพลิเคชั่นสำหรับแชททั้งหลายแหล่ ซึ่งนั่นเป็นเรื่องไม่ดีแน่ๆ สำหรับชีวิตมุสลิมในช่วงเดือนรอมฎอนอันประเสริฐ ที่มุสลิมควรให้ความสนใจไปกับการทำคุณงามความดีและห่างไกลซึ่งสิ่งล่อลวงต่างๆนาๆ
มาร่วมกันทำให้ชีวิตใกล้ชิดอัลลอฮฺมากขึ้น ด้วย 6 เคล็ดไม่ลับการใช้งานสมาร์ทโฟนในเดือนรอมฎอน
1.ปิดการแจ้งเตือน
เวลาของเราในเดือนรอมฎอนแต่ละนาทีนั้นมีค่าเกินกว่าที่จะสูญเสียไปกับการนั่งตรวจสอบการแจ้งเตือนจากแอพพลิเคชั่นต่างๆ แต่หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ใช้โทรศัพท์เพื่อการทำงานหรือเพื่อภารกิจที่สำคัญจริงๆ การงดเว้นการเช็คเมล์อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีนัก เพราะอาจส่งผลต่องานของคุณ สิ่งที่คุณทำได้คือ จำกัดการเช็คเมล์ให้น้อยลง อาจจะกำหนดเป็นช่วงเวลา(ประมาณ 10-15 นาที) สำหรับการเช็คอีเมล์ทั้งหมดของคุณในวันนั้น รวมถึงการแจ้งเตือนต่างๆ เช่นกัน ด้วยวิธีการนี้ คุณจะไม่พลาดสิ่งสำคัญ และไม่ต้องเสียเวลาไปกับการเช็คอีเมล์ตลอดเวลาอีกด้วย
ส่วนการแจ้งเตือนจากแอพพลิเคชั่นข้อความต่างๆ ขอแนะนำให้คุณปิดมันซะ!! หรืออย่างน้อย ปิดการแจ้งเตือน ข้อความที่เป็นกลุ่มต่างๆ คงเหลือไว้แต่ข้อความเฉพาะบุคคล เพียงแค่นี้ คุณก็จะเห็นเฉพาะข้อความสำคัญที่ส่งถึงคุณเท่านั้น
2.ออกจากกลุ่มแชท
ทุกวันนี้เราต่างเป็นสมาชิกของกลุ่มแชท กลุ่มนั้นกลุ่มนี้มากมาย ซึ่งดูจะเป็นเรื่องเสียเวลาไม่น้อยหากต้องมานั่งเช็คข้อความที่มีการแจ้งเตือนเข้ามาตลอดทั้งวัน ลองเข้าไปในกลุ่มที่คุณคิดว่าไม่มีประโยชน์หรือไม่มีสาระ แล้วกดออกจากกลุ่มมาซะ เท่านี้ คุณจะได้เวลากลับคืนมาไม่มากก็น้อย
3.ทิ้งโทรศัพท์ไว้ที่บ้าน
แน่นอนว่าเราหลายคนอาจเคยลืมสมาร์ทโฟนไว้ที่บ้าน อาจด้วยความรีบเร่ง หรืออาจจะด้วยความวุ่นวายตอนออกจากบ้าน ก็สุดแล้วแต่ ทันทีที่เรารู้ว่าลืมสมาร์ทโฟนไว้ที่บ้าน ความรู้สึกกระวนกระวายในหัวจิตหัวใจก็เริ่มต้นขึ้น ถ้ามีคนโทรมาล่ะ? เค้าจะคุยอะไรกันในไลน์บ้างนะ? ใครกดไลค์สเตตัสเราบ้างหรือเปล่า? อาการดังกล่าวเป็นสัญญาณเตือนว่าเรามีอาการเสพย์ติดสมาร์ทโฟนเข้าให้แล้ว วิธีดีที่สุดที่จะเอาชนะอาการนี้คือ การปล่อยวาง
อีกวิธีที่อาจรักษาอาการนี้ได้คือ อาศัยจังหวะในเดือนรอมฎอนแกล้งลืมโทรศัพท์มือืถอไว้ที่บ้านบ้าง เช่น ช่วงเวลาที่เราไปมัสยิดเพื่อละหมาดตะรอเวียะห์ หากเราทิ้งโทรศัพท์ไว้ที่บ้าน เราจะมีสมาธิกับการละหมาดมากขึ้น ซึ่งในยุคสมัยปัจจุบัน เราจะเห็นได้ว่ามีผู้คนมากมายที่มักจะหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาเช็คข้อความหรือแจ้งเตือนต่างๆ หลังการละหมาดทุก 2 รอกาอัต ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น เพราะช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเวลาที่เราต้องรำลึกถึงอัลลอฮฺให้มากที่สุด แต่ถ้าหากเราลองทิ้งโทรศัพท์ไว้ที่บ้านบ้าง เราก็จะห่างไกลจากความกระวนกระวาย ความฟุ้งซ่าน และมีสมาธิอยู่กับการละหมาด
4.เปิดเป็นโหมด เครื่องบิน
ถ้าการทิ้งสมาร์ทโฟนไว้ที่บ้านเป็นเรื่องยากสำหรับคุณ งั้นมาลองวิธีนี้ดู นั่นคือการเปิดโหมดเครื่องบิน ซึ่งโหมดนี้จะทำให้โทรศัพท์ไม่สามารถรับหรือส่งสัญญาณอะไรได้ จะว่าไปมันก็เป็นคุณสมบัติที่ดี ที่จะช่วยให้คุณสามารถตัดการสื่อสารผ่านสมาร์ทโฟนไว้ชั่วคราว โดยไม่ต้องปิดเครื่องหรือทิ้งไว้ที่บ้าน เพียงเท่านี้คุณก็จะไม่ถูกรบกวนด้วยเสียงแจ้งเตือนต่างของสมาร์ทโฟน และหายกังวลว่าเมื่อละหมาดเสร็จแล้วคุณก็ยังสามารถเช็คสมาร์ทโฟนของเราได้อยู่
5.หยิบกุรอานขึ้นมาอ่าน
มีแอปมากมายในแอปสโตร์ที่ทำให้เราสามารถอ่านกุรอานได้ มันมีประโยชน์มากในกรณีที่เราออกไปข้างนอกและไม่สะดวกที่จะพกกุรอานทั้งเล่มออกไปด้วย แต่ถ้าเราอยู่ในมัสยิด แล้วมีกุรอานวางอยู่ เราควรจะอ่านจากในนั้น เพราะการอ่านจากหน้ากระดาษมันมีสมาธิมากกว่าการอ่านจากหน้าจอโทรศัพท์ เพราะไม่ต้องถูกขัดจังหวะจากการแจ้งเตือนของแอพพลิเคชั่นต่างๆ
6.หันมาใช้ของย้อนยุค
ถ้าคุณกล้าพอและมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าในการว่างเว้นจากโลกออนไลน์ ขอแนะนำให้ลองกลับใช้ของย้อนยุคกันดู เชื่อว่าหลายๆ คนย่อมต้องมีโทรศัพท์รุ่นเก่าเก็บอยู่ที่บ้าน การใช้สมาร์ทโฟนรุ่นเก่า หมายความว่าคุณจะสามารถใช้งานได้แต่ระบบพื้นฐานของโทรศัพท์ นั่นคือการโทรเข้าโทรออกและส่งข้อความธรรมดาเท่านั้น บางคนอาจย้งถามว่า แล้วเราจะอยู่โดยปราศจากอินเตอร์เน็ตและแอพพลิเคชั่นเหล่านั้นได้อย่างไร? แหมๆๆ ก่อนหน้าที่จะมีสมาร์ทโฟนเล่นอินเตอร์เน็ตได้ ผู้คนก็อยู่กันสุขสบายนี่ ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย และที่สำคัญ ข้อดีของการใช้โทรศัพท์ย้อนยุคคือ หนึ่งวันของเราจะไม่หมดไปกับการวิ่งหาที่ชาร์จแบตมาชาร์จสมาร์ทโฟนอีกต่อไป
ที่มา : ilmfeed.com
