fbpx

The Story of Halal Life in 5 years

The-Story-of-Halal-Life-in-5-years

ใครที่อ่านบทบรรณาธิการ Halal Life Magazine ฉบับ 36 คงจะรู้แล้วว่ากำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้นกับ Halal Life Magazine

การเปลี่ยนแปลงที่ว่าก็คือ ฉบับนี้จะเป็นฉบับสุดท้ายของ Halal Life Magazine ในความหมายที่เรารู้จัก หลังจากนี้ Halal Life Magazine จะเปลี่ยนแทบทุกอย่างไปจากรูปแบบและความหมายเดิม ทั้งเนื้อหา รูปเล่ม รวมไปถึงวาระการตีพิมพ์

ในฐานะที่เป็นฉบับสุดท้ายและดันมีวาระตรงกับการครบรอบ 5 ปีของสื่อสิ่งพิมพ์เล็กๆ อย่าง Halal Life Magazine ฉบับนี้เราจึงขอคัดเลือกบางส่วนของเรื่องราวที่สามารถสื่อสารตัวตนและความคิดของ Halal Life Magazine ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา

ย้อนหลังกลับไปเดือนธันวาคม ปี 53 ในวันที่ Halal Life Magazine ฉบับแรกคลอดสู่มือผู้อ่าน สารภาพตามตรงว่าเราในฐานะคนทำคลอดก็ไม่รู้ชัดว่า Halal Life Magazine จะอายุยืนยาวขนาดไหน และจะเติบโตขึ้นมามีบุคลิกเช่นไร ความคิดเริ่มต้นของเรา ณ ขณะนั้นคือการคือการทำนิตยสารเพื่อนำเสนอเรื่องราวของผู้คนที่มีวิถีชีวิตแตกต่างหลากหลาย แต่กลับมีจุดร่วมบางอย่างที่เชื่อมโยงร้อยรัดผู้คนเหล่านั้นไว้ด้วยกัน และจุดร่วมที่ว่านั้นก็คือแนวทางการใช้ชีวิตที่มาจากพระผู้เป็นเจ้า

มาวันนี้ ถึงแม้หลายอย่างจะเปลี่ยนแปลงไป แต่ Halal Life Magazine ก็เติบโตขึ้นมาท่ามกลางแนวคิดเช่นนั้น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเราจึงเต็มไปด้วยเรื่องราวของผู้คนมากหน้าหลากอาชีพ หลายความคิด แต่ทุกคนล้วนมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันนั้นคือ การใช้ชีวิตแบบ Halal Life

 

และนี่คือเรื่องราวบางส่วนของพวกเขาเหล่านั้น

The Story of Halal Life in 5 years

 

Halal_Life_Magazine_Cover_01

ซะการีย์ยา อมตยา : นักเดินทางท่ามกลางบทกวี

ซะการีย์ยา อมตยา เติบโตที่หมู่บ้านเล็กๆ ริมตีนเขาบูโด จังหวัดนราธิวาส จบการศึกษาจากคณะอิสลามศาสตร์ สาขาภาษาและวรรณคดีอาหรับ วิทยาลัยนัดวะตุล อุลามาอ์ ประเทศอินเดีย เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะนักกวีคนหนึ่งที่มีความโดดเด่นด้านภาษา จน “ไม่มีหญิงสาวในบทกวี” บทกวีรวมเล่มของเขาถูกคัดเลือกให้ได้รับรางวัลซีไรท์ประจำปี 2553

ขณะที่ Halal Life ฉบับปฐมฤกษ์กำลังก่อรูป เป็นห้วงเวลาเดียวกับที่ ซะการีย์ยา ได้รับการประกาศให้ชนะเลิศรางวัลซีไรต์ เราจึงไม่รอช้าคว้าเขามาขึ้นปกเบิกทางให้ Halal Life ถือกำเนิดในยุทธภพ อ่านความคิดของ ซะการีย์ยา อมตยา ได้ใน Halal Life Magazine ฉบับที่ 1 อ่านออนไลน์ได้ที่ http://www.halallifemag.com/zakariya-amataya

 


 

Halal_Life_Magazine_Cover_08

ยูซุฟ สุขถาวร : เกษตรกรเปี่ยมศรัทธา

ท่ามกลางความเจริญของกรุงเทพมหานคร เมืองที่กระแสทุนนิยมเข้ายึดกุมพื้นที่แทบทุกตารางนิ้ว แทบไม่น่าเชื่อว่าในมุมหนึ่งยังคงมีเกษตรกรที่ใช้ชีวิตเรียบง่ายอย่างมีความสุข

ลุงยูซุฟ หรือประเสริฐ สุขถาวร เกษตรกรวัย 60 ปีเศษ มุ่งมั่นในการทำเกษตรอินทรีย์ที่สอดคล้องกับหลักศาสนาอิสลามมาไม่ต่ำกว่าสิบปี จนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นครูภูมิปัญญาไทย สาขาการจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม จากกระทรวงศึกษาธิการ

ลุงยูซุฟเป็นคนพระรามเก้าโดยกำเนิด แต่มาทำสวนเกษตรอยู่ที่หนองจอกด้วยเหตุผลเพราะความอบอุ่นของพี่น้องมุสลิมที่มีอยู่เป็นจำนวนมากในพื้นที่แห่งนี้ ลุงยูซุฟยังคงมีที่ดินย่านพระรามเก้าอีกหลายไร่ หากนับเป็นมูลค่าคงเรียกแกว่าเศรษฐีได้อย่างไม่เคอะเขิน แต่อะไรคือเหตุผลที่ทำให้ลุงยูซุฟยังคงเลือกดำเนินชีวิตในวิถีเรียบง่ายเช่นนี้อยู่  หาคำตอบได้ใน Halal Life Magazine ฉบับที่ 8 หรือ อ่านออนไลน์ได้ที่ http://www.halallifemag.com/yusuf-sukthavorn

 


 

Halal_Life_Magazine_Cover_09

ศุกรีย์ สะเร็ม : นัก(หลงใหล)ประวัติศาสตร์

เคยสงสัยและตั้งคำถามกับตัวเองไหมว่า บรรพบุรุษของเราเป็นใครและมาจากไหน ทำไมเราถึงได้เป็นคนมุสลิมในแผ่นดินที่ประชากรส่วนใหญ่นับถือคนละศาสนากับเรา ศุกรีย์ สะเร็ม หรือที่เพื่อนสนิทเรียก “บังยีติ๊ก”  ก็เช่นเดียวกันที่สงสัยและเฝ้าถามตัวเองเรื่อยมา

จากความสงสัยที่เกิดขึ้นภายในจิตใจเมื่อเกือบยี่สิบปีก่อน ศุกรีย์ เริ่มค้นคว้าหาข้อมูลที่มาที่ไปของต้นตระกูลและบรรพชนของตัวเอง เริ่มจากค้นคว้าเพราะความสงสัย เรื่อยมาจนกลายเป็นความสนุก จนกระทั่งกลายเป็นความหลงไหลในปัจจุบัน

มากกว่า 10 ปี ที่ศุกรีย์ ค้นคว้าหาคำตอบให้กับตัวเอง แทบไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาได้คำตอบที่คาใจไปแล้ว และหากใครเคยสงสัยและตั้งคำถามกับตัวเองเช่นเดียวกับบังยีติ๊กแล้วยังไม่ได้คำตอบละก็ อ่าน Halal Life Magazine ฉบับที่ 9 เลยครับ คำตอบอาจรอคุณอยู่ก็เป็นได้ อ่านออนไลน์ได้ที่ http://www.halallifemag.com/sukree-sarem

 


 

Halal_Life_Magazine_Cover_10

สุวิทย์ สาสนพิจิตร : นักโทรทัศน์มืออาชีพ

ห้วงขณะที่กระแส “ทีวีมุสลิม” กำลังเป็น “ทอล์คออฟเดอะทาวน์” เพราะมีการเปิดตัว “ทีวีดาวเทียมมุสลิม” ในเวลาไล่เลี่ยกันถึง 3 สถานี เมื่อบวกรวมกับช่องเดิมที่มีอยู่แล้ว ทำให้มีช่องทีวีดาวเทียมมุสลิมมากถึง 5 สถานี มีคำถามและความเห็นเกิดขึ้นมากมาย ทั้งสนับสนุนและคัดค้านทั้งก่นด่าและชื่นชม ฮาลาลไลฟ์ ในฐานะที่เป็นสื่อมุสลิมเช่นกับทีวีดาวเทียมมุสลิมทั้ง 5 ช่อง และในฐานะที่เราเป็นส่วนหนึ่งของสังคมมุสลิม เราจึงตั้งคำถามเช่นเดียวกัน

ในวันนั้นเราชวนผู้อ่านไปร่วมกันหาคำตอบจากคำถามสำคัญ ถึงความจำเป็นและแนวทางการอยู่รอดของทีวีมุสลิมทั้ง 5 สถานี กับ อ.ชาฟิอีย์ สาสนพิจิตร ผู้อำนวยการสำนักรายการ องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย หรือที่เรารู้จักมักคุ้นกันในชื่อ ThaiPBS  คนที่เราเชื่อว่ารู้จริงในเรื่อง “การทำทีวี” ส่วนคำตอบเป็นเช่นไร หาอ่านได้ใน Halal Life Magazine ฉบับที่ 10 หรืออ่านออนไลน์ได้ที่ http://www.halallifemag.com/suwit-sasanapichit

 


 

Halal_Life_Magazine_Cover_25

ฮาร่า ชินทาโร่ : ชาวญี่ปุ่นผู้หลงใหลมลายู

เรื่องราวของ “ฮาร่า ชินทาโร่” อาจฟังดูแปลกหูสำหรับคนไทย เพราะการเป็นมุสลิมในประเทศตะวันออกไกลอย่างญี่ปุ่นออกจะเกินจินตนาการของหลายคนสักหน่อย แต่ข้อมูลที่น่าแปลกใจมากกว่านั้นคือ เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านภาษามลายู เป็นทั้งครูสอนภาษามลายูกลางที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี(มอ.ปัตตานี )และเป็นนักวิชาการผู้มีบทบาทโดดเด่นในฐานะผู้แปลเอกสารแถลงการณ์สำคัญจากกลุ่มขบวนการแนวร่วมปฏิวัติแห่งชาติมลายูปัตตานีหรือ “BRN” จนได้รับการกล่าวขวัญถึงอยู่ในโลกสื่อสารสังคมออนไลน์ทั้งในแง่บวกและลบ กระทั่งถูกล่าแม่มดประณามจากอีกฝ่ายอย่างน่าเสียวไส้

Halal Life จึงอยากชวนผู้อ่านไปทำความรู้จักกับเรื่องราวแปลกหูของชายหนุ่มผู้นี้ อ่านได้ใน Halal Life Magazine ฉบับที่ 25 หรืออ่านออนไลน์ได้ที่ http://www.halallifemag.com/hara-shintaro

 


 

  Halal_Life_Magazine_Cover_26มวลมหาประชามุสลิมได้เวลาปฏิรูป

ท่ามกลางอคติและความเกลียดชังระหว่างมุสลิมและต่างศาสนิกที่เติบโตขึ้น สังคมมุสลิมยังมีความขัดแย้งภายในซ้อนทับจนยุ่งเหยิง เรามักโทษแต่คนอื่นจนลืมสำรวจตรวจตราตัวเอง ว่าทำไม หรือเหตุใด สังคมมุสลิมจึงติดหล่มจมปลักอยู่กับ อคติ ความเกลียดชัง และความขัดแย้งเช่นนี้ บางทีอาจถึงเวลาแล้วที่เราต้องเริ่มคุยกันอย่างจริงจังเสียที

ภายหลังเหตุการณ์ 11 กันยา ทั้งโลกต่างจับจ้องมายังมุสลิม มีคำถามและข้อสงสัยเกิดขึ้นมากมาย และตามติดมาด้วยอคติที่เหมารวมมุสลิมทั่วโลกไม่เว้นแม้แต่ในประเทศไทย มุสลิมไทยเริ่มถูกหวาดระแวงจากฝ่ายความมั่นคงและเพื่อนร่วมชาติอย่างเห็นได้ชัด ต่อเนื่องด้วยความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เป็นดั่งลิ่มตอกเข้าใจกลางรอยร้าวให้เข้าใกล้ความแตกแยกเข้าไปทุกขณะ

ปรับโฟกัสไว้แค่เพียงประเทศไทย สิบกว่าปีที่ผ่านมา เรามักโทษแต่คนอื่นจนลืมสำรวจตรวจตราตัวเอง ว่าทำไม หรือเหตุใด เราจึงถูกประณามจากสังคมต่างศาสนิกว่าเป็น พวกหัวรุนแรง, เห็นแก่ตัว, รักแต่พวกพ้อง, ไม่สนใจปัญหาสังคม หากไปไล่ดูวิวาทะที่เกิดขึ้นบนโลกออนไลน์นับตั้งแต่ยุคเว็บบอร์ดเฟื่องฟูมาจนถึงยุคเฟสบุครุ่งเรือง เราจะเห็นวาทะอคติที่รุนแรงต่อมุสลิมเสมอมา ซึ่งหลายครั้งลุกลามถึงการหมิ่นพระเจ้ากันเลยทีเดียว

นอกจากอคติจากสังคมต่างศาสนิกแล้ว สังคมมุสลิมเองก็มีปัญหาภายในมากมาย ทั้งเรื่องการแตกแยกทางความคิด, ปัญหาความอ่อนแอของครอบครัว, ปัญหายาเสพติด, ปัญหาเยาวชน และอีกนานับประการ คำถามสำคัญคือ เราจะปล่อยให้อคติจากสังคมต่างศาสนิกและปัญหาภายในที่กำลังกัดเซาะสังคมหมดไปด้วยตัวมันเองกระนั้นหรือ บางทีอาจถึงเวลาแล้วที่เราต้องเริ่มคุยกันอย่างจริงจังเสียที

ดังที่อัลลอฮ์ (ซบ.) ได้กล่าวไว้ในซูเราะห์ อัรเราะอฺดุ อายะฮฺที่ 11 ความว่า “แท้จริงอัลลอฮ์จะมิทรงเปลี่ยนแปลงสภาพของชนกลุ่มใด จนกว่าพวกเขาจะเปลี่ยนแปลงสภาพของพวกเขา และเมื่ออัลลอฮ์ทรงปรารถนาความทุกข์แก่ชนกลุ่มใดแล้ว ก็จะไม่มีผู้ตอบโต้พระองค์

Halal Life จึงชวนผู้อ่านร่วมสำรวจตรวจตราปัญหาในสังคมมุสลิมไทย จากอดีต ปัจจุบัน ยันอนาคต ผ่านมุมมองของหลากหลายมุสลิมที่ทั้งเฝ้ามอง ขับเคลื่อน และเป็นภาพแทนของสังคมมุสลิมในอนาคต อ่านเรื่องราวเหล่านี้ได้ใน Halal Life Magazine ฉบับที่ 26 หรืออ่านออนไลน์ได้ที่ http://www.halallifemag.com/change-muslim-thai


Halal_Life_Magazine_Cover_30

ไม่มีที่ว่างสำหรับความรุนแรง

ทันทีที่สองมือปืนบุกโจมตีสำนักงานกลางกรุงปารีสของ ชาร์ลี เอปโด นิตยสารการ์ตูนที่มักตีพิมพ์ภาพล้อเลียนศาสนทูตมุฮัมมัด(ขอความสันติประสบแด่ท่าน) ต่อเนื่องด้วยความขยันขันแข็งในการสร้างความน่าสะพรึงกลัวให้กับผู้คนบนโลกของกลุ่ม ISIS ที่เผยแพร่ผ่านภาพและคลิปวิดีโอ โลกก็ตีตราอิสลามว่าเป็นศาสนาแห่งความรุนแรงอีกครั้ง

อันที่จริงการตีตราอิสลามว่าเป็นศาสนาแห่งความรุนแรงไม่ใช่เรื่องใหม่ โลกถูกตอกย้ำจากข่าวและสถานการณ์ความรุนแรงของมุสลิมที่เกิดขึ้นในโลกมานับสิบปี หลายทฤษฎีถูกหยิบยกขึ้นมาอธิบายและอภิปรายจนเกิดเป็นข้อถกเถียงในวงกว้าง รวมไปถึงทฤษฎีสมคบคิดที่พยายามเชื่อมโยงและจับผิดข้อมูลต่างๆ ว่าเป็นการจัดฉากของมหาอำนาจและองค์กรลับ เพื่อทำลายล้างอิสลามหรือสร้างความชอบธรรมในการบุกยึดดินแดนมุสลิมที่มักอุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ

ท่ามกลางข้อถกเถียงที่เกิดขึ้นมากมาย บางทีการหาคำตอบว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการสร้างภาพความรุนแรงและผู้ก่อการร้ายให้อิสลาม อาจสำคัญน้อยกว่าการตั้งคำถามว่า เราในฐานะมุสลิมผู้ศรัทธา ชิงชังความรุนแรงและการก่อการร้ายมากแค่ไหน และถึงที่สุดแล้วเราเข้าใจในแก่นแท้ของหลักคำสอนอิสลามหรือไม่

คงถึงเวลาแล้วที่เราต้องตั้งคำถามเหล่านี้กับตัวเราเอง

อ่านเรื่องราวเหล่านี้ได้ใน Halal Life Magazine ฉบับที่ 30 หรืออ่านออนไลน์ได้ที่ http://www.halallifemag.com/no-space-for-violence

อ่านเรื่องนี้แล้วคิดอย่างไร ?

About author View all posts Author website

Halal Life

Halal Life สื่อออนไลน์ที่นำเสนอแนวคิด และองค์ความรู้ที่ฮาลาล ผ่านเรื่องราว ผ่านมุมมอง และผ่านประสบการณ์ของหลากหลายผู้คน เพื่อเชื่อมโยงผู้คนที่ใช้ชีวิตในแบบฮาลาลเข้าไว้ด้วยกัน