fbpx

ชวนไปทำความรู้จักมุสลิมในประเทศ 8 ทีมสุดท้ายฟุตบอลโลก 2018

ฟุตบอลโลก 2018 มหกรรมกีฬาที่ว่ากันว่ายิ่งใหญ่ที่สุดในโลกเดินทางมาถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายแล้ว น่าเสียดายที่ 8 ทีมสุดท้ายบอลโลกปีนี้เหลือเพียงทีมชาติจากเพียงสองทวีปเท่านั้นคือ ยุโรปและอเมริกาใต้ เราเลยอดได้เห็นภาพความหลากหลายของนักเตะและกองเชียร์ในมหกรรมฟุตบอลโลกครั้งนี้ไปตั้งแต่รอบ 16 ทีม

คนดูฟุตบอลหลายคนคงคิดเหมือนกันนะครับว่าการดูฟุตบอลนอกจากจะได้ความสนุกจากการลุ้นผลแพ้ชนะแล้ว มันยังให้ความรู้ด้านสังคมศาสตร์และภูมิศาสตร์กับเราด้วย เมื่อเราดูฟุตบอลเราได้รู้จักชื่อเมือง ที่ตั้งประเทศ รูปร่างหน้าตา และภาษาของผู้คนที่อาศัยอยู่ร่วมกับเราบนโลกกลมๆ ใบนี้

และเพื่อให้การดูฟุตบอลช่วยให้เรารู้จักมุสลิมในภูมิภาคอื่นๆ มากขึ้น Halal Life จึงอยากชวนเราไปทำความรู้จักกับเรื่องราวของมุสลิมและศาสนาอิสลามใน 8 ประเทศที่เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายของฟุตบอลโลก 2018 ปีนี้

ไปดูกันเลยครับ

1. อุรุกวัย

Embed from Getty Images

ทีมชาติอุรุกวัย อดีตแชมป์บอลโลกสองสมัย เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายฟุตบอลโลกปีนี้มาด้วยสถิติชนะรวด ปราบมาหมดทั้งรัสเซียเจ้าภาพและโปรตุเกสของคริสเตียโน่ โรนัลโด้

อุรุกวัยเป็นประเทศเล็กๆ ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของทวีปอเมริกาใต้ มีประชากรเพียงสามล้านกว่าคน ประชากรเกือบครึ่งของประเทศอาศัยอยู่ในเมืองหลวงและเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดคือ กรุงมอนเตวิเดโอ

ถึงแม้จะเป็นประเทศเล็กๆ และมีจำนวนประชากรไม่มาก แต่ที่อุรุกวัยก็ยังพอจะมีชาวมุสลิมอาศัยอยู่ จำนวนชาวมุสลิมที่นี่มีไม่มาก โดย Wikipedia ระบุว่ามีจำนวนเพียง 900 – 1,000 คนเท่านั้น โดยส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในเมือง Chuy ใกล้ชายแดนบราซิล และที่อุรุกวัยไม่มีมัสยิดแต่มีศูนย์อิสลามอยู่สามแห่งในกรุงมอนเตวิเดโอ เมืองหลวงของประเทศ

 

2. ฝรั่งเศส

Embed from Getty Images

ทีมชาติฝรั่งเศส ทีมยักษ์ใหญ่ของยุโรปที่หวังคว้าแชมป์โลกมาครองให้ได้เป็นสมัยที่สอง ฝรั่งเศสปีนี้เป็นทีมที่เต็มไปด้วยดาวรุ่งที่น่าจับตามอง โดยเฉพาะ คีเลียน เอ็มบัปเป้ นักเตะที่อายุยังไม่ถึง 20 ปี และเกิดไม่ทันการคว้าแชมป์โลกของฝรั่งเศสในปี 98

อิสลามเป็นศาสนาที่มีผู้นับถือมากเป็นอันดับสองในประเทศฝรั่งเศสรองจากศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิก โดยอิสลามมีผู้นับถือราว 8 ล้านคน จากจำนวนประชากรทั้งประเทศประมาณ 64 ล้านคน ทำให้ฝรั่งเศสกลายเป็นประเทศที่มีชาวมุสลิมอาศัยอยู่มากที่สุดในยุโรป

มุสลิมในฝรั่งเศสส่วนใหญ่มีเชื้อสาย แอลจีเรีย โมร็อกโก และตูนีเซีย สามประเทศในแอฟริกาเหนือที่เป็นอดีตเมืองขึ้นของของฝรั่งเศส ตัวอย่างเช่น ซีเนดีน ซีดาน และ การีม เบนเซมา อดีตนักฟุตบอลดาวเด่นของทีมชาติฝรั่งเศสที่มีเชื้อสายแอลจีเรีย

เรื่องราวของชาวมุสลิมและศาสนาอิสลามในฝรั่งเศสเป็นที่รับรู้กันบ่อยครั้งทั้งเรื่องดีและเรื่องร้าย แต่ดูเหมือนเรื่องร้ายมักจะเป็นข่าวดังและได้รับความสนใจมากกว่า ทั้งเรื่องการก่อร้ายและการลิดรอนสิทธิ์ต่างๆ ของชาวมุสลิม

 

3. บราซิล

Embed from Getty Images

ถึงมืทีมชาติบราซิลจะเป็นอดีตแชมป์บอลโลก 5 สมัย แต่ฟุตบอลโลกสมัยนี้พวกเขากลับทำผลงานได้ไม่ดีอย่างที่หลายคนคาดหวัง แต่ด้วยความที่เป็นทีมชาติบราซิล ไม่ว่าใครมองว่าพวกเขาเล่นไม่ดีอย่างไร พวกเขาก็ยังคงสามารถพาทีมเข้ารอบลึกๆ ได้เสมอ

บราซิลเป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดและมีประชากรมากที่สุดในทวีปอเมริกาใต้ และเป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 5 ของโลก พื้นที่ของประเทศมีขนาดเกือบครึ่งหนึ่งของทวีปอเมริกาใต้ทั้งทวีป มีจำนวนประชากร 190 กว่าล้านคน

ศาสนาอิสลามเดินทางไปถึงประเทศบราซิลตั้งแต่เมื่อราว 500 ปีก่อน จากการที่โปรตุเกสได้นำทาสชาวแอฟริกาที่นับถือศาสนาอิสลามเข้าไปใช้แรงงานในบราซิลตั้งแต่ปี ค.ศ. 1550 ข้อมูลปัจจุบันจากหลายแห่งระบุจำนวนประชากรมุสลิมในบราซิลว่ามีราวๆ 30,000 – 40,000 คน แต่สมาคมมุสลิมบราซิลระบุตัวเลขอย่างไม่เป็นทางการว่า บราซิลน่าจะมีมุสลิมมากถึง 1.5 ล้านคน และมีมัสยิดราวๆ 150 แห่งเลยทีเดียว

ข้อมูลที่น่าสนใจคือ บราซิลเป็นประเทศที่มีส่วนแบ่งการตลาดในธุรกิจอาหารฮาลาลมากที่สุดในโลก จากการเป็นผู้ส่งออกไก่และเนื้อสัตว์ให้แก่ประเทศมุสลิม

 

4. เบลเยี่ยม

Embed from Getty Images

ทีมชาติเบลเยี่ยม ถูกคาดหวังว่าจะเป็นชาติที่ไม่ได้เป็นแชมป์เก่าที่จะคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกในครั้งนี้ จากผลงานที่ทำได้อย่างยอดเยี่ยมโดยไม่แพ้ทีมใดเลยตั้งแต่รอบคัดเลือกจนมาถึงรอบ 8 สุดท้าย

ถึงแม้จะเป็นประเทศไม่ใหญ่แต่เบลเยียมก็ได้รับการขนานนามจากกลุ่มประเทศสมาชิกยุโรปว่าเป็น “เมืองหลวงแห่งสหภาพยุโรป” เพราะกรุงบรัสเซลส์ เมืองหลวงประเทศนั้นเป็นที่ตั้งของสำนักงานสหภาพยุโรปและหน่วยงานระหว่างประเทศหลายหน่วยงาน

มุสลิมในเบลเยี่ยมมีราวๆ 7 – 8 แสนคน จากจำนวนประชากรทั้งประเทศ 11 ล้านคน โดยมีบันทึกว่าศาสนาอิสลามเข้ามาในเบลเยี่ยมตั้งแต่ก่อนได้รับเอกราชจากเนเธอร์แลนด์ในปี ค.ศ. 1830 และได้รับการรับรองว่าอย่างเป็นทางการว่าเป็นหนึ่งในศาสนาของประเทศเบลเยี่ยมในปี ค.ศ. 1974

อย่างไรก็ดีชุมชนมุสลิมในเบลเยี่ยมก็มักตกอยู่ในการจับตามองของหน่วยงานความมั่นคงของยุโรปว่าเป็นแหล่งซ่องสุมของผู้ก่อการร้ายที่ก่อเหตุหลายประเทศในยุโรป

 

4. รัสเซีย

Embed from Getty Images

ถึงแม้จะเป็นเจ้าภาพ แต่ทีมชาติรัสเซียก็ไม่ได้ถูกคาดหมายว่าจะเป็นทีมเต็งในฟุตบอลโลกครั้งนี้ แต่ด้วยสปิริตของเจ้าบ้านเราจึงได้เห็นพวกเขาสู้ยิบตาในทุกนัดที่ลงเล่น โดยเฉพาะนัดล่าสุดที่ดวลจุดโทษชนะสเปนหนึ่งในทีมเต็งแชมป์ในรอบ 16 ทีมที่ผ่านมา

รัสเซียเป็นประเทศในทวีปยุโรปที่มีพื้นที่มากที่สุดในโลก โดยอิสลามเป็นศาสนาที่มีผู้นับถือมากที่สุดเป็นอันดับสองของประเทศ ว่ากันว่าจำนวนประชากรมุสลิมรัสเซียในประเทศนั้นอาจมีมากถึง 20 ล้านคนเลยทีเดียว นอกจากนี้อิสลามยังเป็นศาสนาที่ได้รับการรับรองภายใต้กฎหมายว่าเป็นหนึ่งในศาสนาดั้งเดิมของประเทศอีกด้วย

นอกจากนี้ศาสนาอิสลามยังเคยได้รับสถานะศาสนาประจำชาติรัสเซียควบคู่ไปกับศาสนาคริสต์นิกายออร์โธดอกซ์ ในยุคสมัยของจักรพรรดินีแคทเธอรีนที่ 2 แห่งรัสเซีย จักรพรรดินีนาถที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดและครองราชย์ยาวนานที่สุดของรัสเซียอีกด้วย

 

6. โครเอเชีย

Embed from Getty Images

ก่อนการแข่งขันจะเริ่ม ทีมชาติโครเอเชียถูกวางเป็น 1 ใน 10 ทีมเต็งแชมป์บอลโลกในครั้งนี้ และพวกเขาก็ทำผลงานได้ดีตามที่ถูกคาดหวัง เมื่อผ่านเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่มด้วยการชนะรวด โดยเฉพาะนัดที่ถล่มอาร์เจนติน่าไปถึง 3 – 0

โครเอเชียเป็นประเทศในทวีปยุโรป เคยเป็นหนึ่งในสาธารณรัฐของประเทศยูโสลาเวีย ก่อนจะได้รับเอกราชเมื่อปี ค.ศ. 1991 โดยศาสนาอิสลามเริ่มต้นในโครเอเชียตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 15 ในช่วงที่อาณาจักรออตโตมันเข้าปกครองพื้นที่บางส่วนของโครเอเชีย ทำให้ชาวโครเอเชียบางส่วนเปลี่ยนมานับถือศาสนาศาสนาอิสลาม

ปัจจุบันประมาณการกันว่ามีชาวโครเอเชียมุสลิมราว 60,000 คน โดยส่วนใหญ่มีเชื้อสายบอสเนีย โครแอท และแอลบาเนีย ชุมชนอิสลามแห่งโครเอเชีย (The Islamic Community of Croatia) ถือเป็นองค์กรหลักของชาวมุสลิมในโครเอเชียที่ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการจากราชการ และมัสยิดแห่งแรกในโครเอเชียถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1969 ปัจจุบันมีมัสยิด 4 แห่งและศูนย์อิสลามอีก 2 แห่งในโครเอเชีย

 

7. อังกฤษ

Embed from Getty Images

ถึงแม้จะเป็นทีมที่เต็มไปด้วยนักเตะชื่อดัง แต่ทีมชาติอังกฤษก็มักทำผลงานได้น่าผิดหวังในฟุตบอลโลกหลายครั้งที่ผ่านมา หลายคนจึงมักไม่ค่อยคาดหวังจากพวกเขาสักเท่าไหร่ แต่ในฟุตบอลโลกครั้งนี้ทีมชาติอังกฤษชุดที่เต็มไปด้วยนักเตะดาวรุ่งหน้าใหม่กลับกำลังทำผลงานได้ดีและเรียกศรัทธาจากแฟนบอลของพวกเขากลับคืนมา

อังกฤษเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้เปลี่ยนศาสนามานับถืออิสลามจำนวนมาก โดยรายงานในปี ค.ศ. 2011 ระบุว่าชาวอังกฤษเปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลามมากถึง 100,000 คน ในจำนวนนี้ 66% เป็นผู้หญิง

จากการสำรวจปัจจุบันมีชาวอังกฤษมุสลิมประมาณ 2.7 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นลูกหลานของชาวเอเชียใต้ (อินเดีย, ปากีสถาน, บังคลาเทศ) อดีตเมืองขึ้นของอังกฤษ แต่ก็มีหลักฐานระบุว่ามีผู้นับถือศาสนาอิสลามอยู่ในอังกฤษตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 โดยมีทั้งชาวต่างชาติและชาวอังกฤษที่เปลี่ยนศาสนามานับถืออิสลาม

ข้อมูลจากเว็บไซต์ muslimsinbritain.org ได้ระบุจำนวนมัสยิดในอังกฤษว่ามีมากกว่า 1,700 แห่งเลยทีเดียว หากใครไปเที่ยวอังกฤษแล้วหามัสยิดไม่ได้ลองเข้าไปที่เว็บนี้ดู เพราะเค้าทำพิกัดทั้ง 1,700 มัสยิดเอาไว้ให้แล้ว

 

8. สวีเดน

Embed from Getty Images

ทีมชาติสวีเดน ถือเป็นม้ามืดในรอบ 8 ทีม หลังทำผลงานเซอร์ไพรส์แฟนบอลด้วยการผ่านรอบแบ่งกลุ่มด้วยการเป็นผู้นำในกลุ่มที่มีทีมเต็งแชมป์อย่างเยอรมัน

สวีเดนเป็นอีกหนึ่งในประเทศยุโรปที่ชาวมุสลิมอพยพเข้าไปตั้งถิ่นฐานในระยะหลังมานี้ แต่ถึงกระนั้นข้อมูลทางโบราณคดีก็ได้แสดงให้เราเห็นว่า ชาวสวีเดนและชาวมุสลิมนั้นมีสัมพันธ์ต่อกันมาตั้งแต่ยุคไวกิ้งหรือในช่วงศตวรรษที่ 7 โดยมีการค้นพบเหรียญอาหรับเป็นจำนวนมากในหลุมฝังศพโบราณ

ปัจจุบันจำนวนประชากรมุสลิมในสวีเดนที่ราวๆ 4 แสนกว่าคน และมีมัสยิด 17 หลัง โดยมัสยิดหลังแรกในสวีเดนสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1976

 

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับข้อมูลคร่าวๆ ของมุสลิมใน 8 ประเทศสุดท้ายฟุตบอลโลก 2018 ใครเคยไปประเทศไหนหรือมีข้อมูลอะไร แลกเปลี่ยนกันได้นะครับ

 

อ่านเรื่องนี้แล้วคิดอย่างไร ?

About author View all posts Author website

Halal Life

Halal Life สื่อออนไลน์ที่นำเสนอแนวคิด และองค์ความรู้ที่ฮาลาล ผ่านเรื่องราว ผ่านมุมมอง และผ่านประสบการณ์ของหลากหลายผู้คน เพื่อเชื่อมโยงผู้คนที่ใช้ชีวิตในแบบฮาลาลเข้าไว้ด้วยกัน