ภายหลังเหตุการณ์ 11 กันยา ทั้งโลกต่างจับจ้องมายังมุสลิม มีคำถามและข้อสงสัยเกิดขึ้นมากมาย และตามติดมาด้วยอคติที่เหมารวมมุสลิมทั่วโลกไม่เว้นแม้แต่ในประเทศไทย มุสลิมไทยเริ่มถูกหวาดระแวงจากฝ่ายความมั่นคงและเพื่อนร่วมชาติอย่างเห็นได้ชัด ต่อเนื่องด้วยความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เป็นดั่งลิ่มตอกเข้าใจกลางรอยร้าวให้เข้าใกล้ความแตกแยกเข้าไปทุกขณะ
ปรับโฟกัสไว้แค่เพียงประเทศไทย สิบกว่าปีที่ผ่านมา เรามักโทษแต่คนอื่นจนลืมสำรวจตรวจตราตัวเอง ว่าทำไม หรือเหตุใด เราจึงถูกประณามจากสังคมต่างศาสนิกว่าเป็น พวกหัวรุนแรง, เห็นแก่ตัว, รักแต่พวกพ้อง, ไม่สนใจปัญหาสังคม หากไปไล่ดูวิวาทะที่เกิดขึ้นบนโลกออนไลน์นับตั้งแต่ยุคเว็บบอร์ดเฟื่องฟูมาจนถึงยุคเฟสบุ๊ครุ่งเรือง เราจะเห็นวาทะอคติที่รุนแรงต่อมุสลิมเสมอมา ซึ่งหลายครั้งลุกลามถึงการหมิ่นพระเจ้าและศาสนดากันเลยทีเดียว
นอกจากอคติจากสังคมต่างศาสนิกแล้ว สังคมมุสลิมเองก็มีปัญหาภายในมากมาย ทั้งเรื่องการแตกแยกทางความคิด, ปัญหาความอ่อนแอของครอบครัว, ปัญหายาเสพติด, ปัญหาเยาวชน และอีกนานับประการ คำถามสำคัญคือ เราจะปล่อยให้อคติจากสังคมต่างศาสนิกและปัญหาภายในที่กำลังกัดเซาะสังคมหมดไปด้วยตัวมันเองหรือ บางทีอาจถึงเวลาแล้วที่เราต้องเริ่มคุยกันอย่างจริงจังเสียที
ดังที่อัลลอฮ์ (ซบ.) ได้กล่าวไว้ในซูเราะห์ อัรเราะอฺดุ อายะฮฺที่ 11 ความว่า “แท้จริงอัลลอฮ์จะมิทรงเปลี่ยนแปลงสภาพของชนกลุ่มใด จนกว่าพวกเขาจะเปลี่ยนแปลงสภาพของพวกเขา และเมื่ออัลลอฮ์ทรงปรารถนาความทุกข์แก่ชนกลุ่มใดแล้ว ก็จะไม่มีผู้ตอบโต้พระองค์
Halal Life จึงอยากชวนผู้อ่านร่วมสำรวจตรวจตราปัญหาในสังคมมุสลิมไทย จากอดีต ปัจจุบัน ยันอนาคต ผ่านมุมมองของหลากหลายมุสลิมที่ทั้งเฝ้ามอง ขับเคลื่อน และเป็นภาพแทนของสังคมมุสลิมในอนาคต
เริ่มต้นจากการ “เรียนรู้อดีต” ผ่านการศึกษาของ คุณศุกรีย์ สะเร็ม นักประวัติศาสตร์ท้องถิ่น และตามด้วยทัศนะจากตัวแทนของคนที่ “ขับเคลื่อนปัจจุบัน” อย่างสองโต๊ะครูนักพัฒนามือฉมัง อ.อัชอะรีย์ เรืองปราชญ์ และ อัลอัค อับดุลมะญีด อุปมา และปิดท้ายด้วยการ “ออกแบบอนาคต” สังคมมุสลิมไทยในฝัน ผ่านจินตนาการของคนหนุ่มสาวมุสลิมแห่งยุคสมัย ฮัมซะฮ์ อัลกรีมี, มุญาฮีด วงษ์มณี, มุฮัมหมัดฟะฮ์มี ตาเละ และ อาดิ้ล ศิริพัธนะ
[bws_related_posts]