fbpx

ผู้หลอกลวงนั้นสำเร็จเพียงครั้งเดียว

ราวๆ ปี ค.ศ.2005 ซึ่งเป็นปีแรกที่เริ่มเรียนชั้นมัธยมปลายที่ประเทศตุรกี ปีนั้นเรานักเรียนไทยในตุรกีจำนวนสิบคน เข้าเรียนชั้นมัธยมปลายในโรงเรียนอิหม่ามเคาะฏีบที่จังหวัดเมอร์ซินที่ประเทศตุรกี โรงเรียนเราอยู่ในอำเภอเล็กๆ ติดชายทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ห่างจากตัวเมือง ที่นั่นเป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่มีอากาศดีและมีบรรยากาศของความเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในการเดินเรือของยุคโบราณ จะสังเกตุได้ว่ามีปราสาทโบราณอยู่บนยอดเขาใจกลางเมืองเล็กๆ แห่งนี้ แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ปราสาทแห่งนี้ในตอนนั้นยังคงถูกทิ้งร้างและไม่ได้รับการพัฒนาให้เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การท่องเที่ยวแต่อย่างใด ชาวบ้านแถวนั้นบอกว่าปราสาทแห่งนี้ปัจจุบันเป็นที่อยู่อาศัยของงูจำนวนมาก

วันหนึ่งผมกับเพื่อนๆ เข้าไปทำธุระที่ตลาดในเมืองและถือโอกาสเดินไปเล่นใกล้ๆ ปราสาทดังกล่าว เราไม่ได้ขึ้นไปบนปราสาทแห่งนั้น ไม่ได้ถ่ายภาพอะไรเก็บไว้ แต่เราเดินไปใกล้ๆ ทางขึ้นเขาไปยังปราสาทแห่งนั้นและละหมาดอัสรีที่มัสยิดแห่งหนึ่งที่อยู่ติดริมทะเล สภาพของมัสยิดเป็นมัสยิดที่สร้างด้วยไม้ผสมกับตัวอาคารที่เป็นอิฐและปูน อยู่ริมทะเลบริเวณตีนเขาใกล้ปราสาท ซึ่งค่อนข้างจะเงียบสงบ ห่างไกลผู้คน และมีลมพัดเบาๆจากทะเล

เมื่อละหมาดเสร็จเรียบร้อย ผมออกมาจากมัสยิดก็เจอกับชายแก่คนหนึ่ง เมื่อเขาเห็นเราเป็นคนต่างชาติก็เข้ามาทักทาย และเป็นเรื่องที่พบไม่ค่อยบ่อยนักในบริเวณนั้นที่จะมีคนวัยรุ่นเข้าละหมาดห้าเวลานอกจากละหมาดวันศุกร์ที่มัสยิด ชายชราได้ชวนเราคุยในขณะที่เรากำลังรีบจะออกจากมัสยิด เราคุยกันไม่มาก แต่มีประโยคหนึ่งที่ผมจำได้ดี และไม่รู้ว่าเขาพูดประโยคนี้ออกมาได้อย่างไรหรือด้วยจุดประสงค์อะไร เขาบอกกับเราว่า “คนที่หลอกลวง เขาจะสำเร็จเพียงครั้งเดียว” ประโยคนี้เป็นประโยคทิ้งท้ายก่อนที่เราจะแยกจากกันไปคนละทาง  และถึงแม้จะเป็นเพียงการพบกันเพียงสั้นๆ แต่ก็เป็นประโยคที่ผมยังจำได้จนถึงวันนี้

วันนี้ผมพยายามทำความเข้าใจประโยคนี้ ถึงแม้อาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับผู้พูดประโยคนี้ให้ผมฟังอีกแล้ว และคนที่พูดประโยคนี้ให้ผมฟังก็คงได้พบกับเขาเพียงครั้งนั้นครั้งเดียวในชีวิต แต่ยังเป็นประโยคที่ตราตรึงอยู่ในใจผมอยู่เนืองๆ เมื่อนึกถึงเนื้อหาของประโยคผมก็เห็นว่ามันไม่ตรงกับความเป็นจริงที่เราพบเจอ เพราะผู้หลอกลวงหลายคนนั้นก็ประสบความสำเร็จในการหลอกลวงอยู่หลายครั้ง เมื่อมองในมิตินี้จึงรู้สึกว่าข้อความนี้เป็นเท็จ ไม่ตรงกับความจริงสักเท่าไหร่ แต่เมื่อกลับมานั่งคิดในอีกมุมหนึ่งทำไมประโยคนี้จึงทำให้เราสะดุดใจ ผมจึงพยายามถามใจของตัวเอง จึงนึกขึ้นได้ว่า ถ้าหากเรานับดุนยาหรือโลกนี้ เป็นครั้งเดียว ประโยคนี้จะเป็นความจริงขึ้นมาทันที

อิสลามสอนให้เรารู้ว่าการหลอกลวงของผู้ที่หลอกลวงนั้นจะเกิดขึ้นบนโลกนี้อย่างแน่นอน และชีวิตบนโลกใบนี้นั้นเต็มไปด้วยการหลอกลวง ผู้เป็นต้นตอของการหลอกลวงคือสิ่งมีชีวิตลี้ลับ นั่นคือชัยฏอน ซาตานมารร้าย ที่วิ่งอยู่ในสายเลือดของเรา การหลอกลวงจึงเป็นเรื่องลึกที่มาจากส่วนลึกของจิตใจ เป็นศาสตร์และศิลป์ที่เก่าแก่อย่างหนึ่ง เมื่อเรานึกถึงว่าหนทางไปสวรรค์อันเป็นความสำเร็จของมนุษย์นั้นเต็มไปด้วยขวากหนาม และหนทางไปนรกนั้นเต็มไปด้วยอารมณ์ใคร่และความต้องการที่ล่อตาล่อใจ เบื้องหลังที่ลี้ลับของการหลอกลวงจึงมากกว่าที่คิด เมื่อถึงจุดนี้การมีไหวพริบที่ได้รับการประทานจากพระเจ้าจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้มนุษย์รอดพ้น บทบัญญัติของอัลลอฮฺจึงเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการมีวิถีชีวิตที่มีไหวพริบที่จะทำให้รอดพ้นจากการหลอกลวง

เมื่อกลับมาดูการใช้ชีวิตของเราในปัจจุบัน ยุคโลกาภิวัฒน์ ยุคที่ถูกเรียกว่ายุคหลังโมเดิร์น ถึงแม้หลายๆ อย่างจะเปลี่ยนแปลงไป แต่คนเราก็ยังเป็นคนที่ถูกท้าทายจากการหลอกลวง ซึ่งเป็นการหลอกลวงที่ซับซ้อนมากขึ้น ผลไม้ของต้นไม้ที่พระเจ้าห้ามเข้าใกล้ จึงเข้าถึงได้ง่ายขึ้นด้วยระบบเทคโนโลยีสมองกล การหลอกลวงจึงเป็นสิ่งที่อยู่ในเทรนด์ เป็นการหลอกลวงแบบสมาร์ท เท่าทันกับวิถีชีวิตที่มีความสมาร์ท แต่ละคน แต่ละยุคจึงมีบททดสอบที่เหมาะสมกับที่เขาควรจะเผชิญ

ในความคิดเห็นของผมแล้ว เสรีภาพที่ไร้ขีดจำกัดที่คนยุคใหม่อย่างเราต่างต้องการและโหยหา มันทำให้ผมนึกถึงเรื่องของมนุษย์คนแรกในอัลกุรอ่านที่ต้องการเป็นอมตะ(immortal) ต้องการเป็นมะลัก(เทวา) แต่สุดท้ายถูกหลอกลวงให้กินผลไม้ที่ต้องห้าม

หรือว่าเรากำลังเดินตามรอยความผิดพลาดของบรรพบุรุษของเราอีกครั้งในการขวนขวายกิเลสเพื่อเสรีภาพของเรา หรือว่าเรากำลังหลงกลแก่ผู้หลอกลวงครั้งยิ่งใหญ่อีกครั้ง ท่ามกลางความเจริญรุ่งเรืองทางวิทยาศาสตร์ของมนุษยชาติ

อย่างไรก็ตามหากเรามีอัลลอฮฺ ประโยคที่ว่าผู้หลอกลวงจะสำเร็จเพียงครั้งเดียว ก็จะมีความหมายขึ้นมาทันที

เรื่องโดย : อับดุลเอาวัล สิดิ
Photo : Mahir Uysal on Unsplash

อ่านเรื่องนี้แล้วคิดอย่างไร ?

About author View all posts

อับดุลเอาว์วัล สิดิ

อับดุลเอาว์วัล สิดิ ฝ่ายวิชาการโครงการวากัฟมะดีนะตุสสลาม อดีตรองประธานนักศึกษาไทยในตุรกี