ในช่วงสามสิบกว่าปีที่ผ่านมา โรงเรียนศาสนูปถัมภ์ นับได้ว่าเป็นแหล่งตักศิลาสำคัญในการศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับอิสลาม และยังได้ผลิตนักวิชาการอิสลามคนสำคัญมากมาย ไม่ว่าจะเป็น อ.อัชอารีย์ เรืองปราชญ์ อ.อับดุลวาเฮด หวังประโยชน์ อ.ซิดดี๊ก มูฮำหมัดสะอี๊ด เป็นต้น
อ.มุสตอฟา อยู่เป็นสุข ในฐานะผู้บุกเบิกโรงเรียนศาสนูปถัมภ์มาตั้งแต่ต้นจึงนับได้ว่าเป็นครูของครูอีกมากมายหลายคน ท่ามกลางสถานการณ์ในสังคมมุสลิมที่อะไรมันก็ดูยุ่ง ๆ นะซีฮัตจากครูอาจารย์ระดับอาวุโสจึงย่อมนับได้ว่าเป็นสิ่งที่สังคมมุสลิมควรตั้งใจฟัง
Halal Life : จุดเด่นอย่างนึงของอาจารย์คือบุคลิก อ่อนน้อม อ่อนโยนอย่างนี้ อาจารย์ได้แบบอย่างนี้มาจากใคร
อ.มุสตอฟา : ก็ต้องบอกว่านี่มาจากอัลลอฮฺด้วย ประการที่สองก็คือว่า เราอ่านกุรอานพบนะ อย่าง อัรเราะฮฺมาน อัลละมัลกุรอาน อัรเราะฮ์มานเป็นชื่อหนึ่งของอัลลอฮ์ แปลว่าผู้ทรงเมตตา อัลละมัลกุรอาน ผู้ทรงเมตตานี่สอนกุรอาน หมายถึงให้ความรู้กับประชาชนกับลูกศิษย์ ผู้ที่มีลักษณะอัรเราะฮ์มาน ก็คือมีความเมตตาสงสารให้อภัย ผมก็เอาจากคัมภีร์อัล-กุรอานนี่แหละมาเป็นแนวทางในการปฏิบัติ
Halal Life : เท่าที่อาจารย์เป็นครูสอนมานานมากหลายสิบปีนี่ การเรียนการสอนหรือบทบาทของการศึกษาในสังคมปัจจุบันนี้แตกต่างกับอดีตอย่างไร
อ.มุสตอฟา : นักเรียนรุ่นก่อนกับนักเรียนรุ่นปัจจุบันนี่ต่างกันเยอะ ความตั้งใจของเด็กรุ่นก่อน ๆ นี่ดีกว่าเด็กรุ่นปัจจุบัน อัคลากก็ดีกว่า นิสัยดีกว่า ไม่ค่อยดื้อเท่าเด็กสมัยนี้ แล้วความตั้งใจ นี่ถ้าหากว่าคนไทยนี่นักเรียนไทยนี่ ถ้าหากตั้งใจเรียนนะไม่จำเป็นต้องไปอยู่ต่างประเทศหรอก
Halal Life : อ.อิสมาแอล วิสุทธิปรานี ก็ไม่ได้เรียนต่างประเทศ
อ.มุสตอฟา – ก็นั่นนะซิ ความตั้งใจสมัยคนยุคก่อนนี่ แต่สมัยนี้ต่างกันมากเลย ครูอิสมาแอลน่ะ อ.อิลยาส (นาคนาวา) ด้วยเหมือนกัน ไม่ได้จบต่างประเทศแต่ว่าเขาก็ตั้งใจดีอะไรดี แต่เด็กรุ่นใหม่นี่ อัลลอฮุอักบัร
Halal Life : ปัญหามันอยู่ที่เด็ก หรือว่าควรโทษครูที่เป็นคนสอนครับ
อ.มุสตอฟา – ผมว่าก็ประกอบกันนะ ครูเองก็เป็นแบบอย่างที่ดีของนักเรียนไม่ได้ ผมว่ามาจากครูนี่แหละมากกว่า
Halal Life : ครูสมัยนี้กับสมัยก่อนต่างกันยังไง
อ.มุสตอฟา – ผมว่าครูสมัยก่อนนี่สอนหนังสือใช้วิญญาณเยอะ ใช้ดุอาอ์ ใช้อัคลากสอนมากกว่า แต่คนสมัยนี้สอนเพื่อ ผมก็มองดูนะเหมือนกับอยู่ไปวัน ๆ นะ
Halal Life : ทำไมเป็นแบบนั้นครับ ก็ในเมื่อครูยุคปัจจุบันก็คือศิษย์ของครูยุคก่อน
อ.มุสตอฟา – เพราะว่าคงจะอ่านหนังสือพิมพ์เยอะมากเกินไปหรือเปล่า คนอ่านอัล-กุรอานเยอะ ๆ อ่านอัล-หะดีษเยอะ ๆ หัวใจมันก็คิดอย่างนึง เราไม่ได้ตำหนิข่าวหรอกนะอ่านนะได้แต่ว่าเราบางทีใส่ใจกับข่าวความเคลื่อนไหวอะไรมากเกินไปหรือเปล่า สมัยนี้ตีเด็กได้ที่ไหน ถ้าจะตีหรือ เฮ้ย ไม่ได้ ๆ กลัวลงหนังสือพิมพ์ เพราะฉะนั้นผมว่ามันมาจากครูนี่เยอะมากกว่ามาจากนักเรียน ส่วนนักเรียนนี่เราจะโทษพ่อแม่มากกว่า เพราะผู้หลักผู้ใหญ่รุ่นก่อน ๆ นี่ จะสอนลูก เราต้องกลัวครู ให้เกียรติครู แต่สมัยนี้จะมีพ่อสักกี่คนที่บอกลูกว่าให้เกียรติครูเคารพครู
Halal Life : พ่อบอกว่าให้ดูว่าครูสอนอะไร ครูสอนถูกหรือเปล่า
อ.มุสตอฟา – (หัวเราะ) เหมือนกับจะจับผิดครู เพราะฉะนั้นมันอยู่ที่พ่อแม่ด้วยนะ พ่อแม่เคยขอดุอาอ์ไหม ออกจากบ้านเคยขอดุอาอ์เคยกอดลูกไหม บอกให้ลูกมีอีมานต่อัลลอฮฺ อย่างกับท่านนบีมุฮัมมัดเคยทำกับลูกหลานของท่าน เพราะฉะนั้นวันนี้ผมมองดูว่าสถาบันการศึกษา นี่เป็นหะดีษบทหนึ่งของท่านนบี นบีบอกว่า ใกล้ ๆ วันกิยามะฮฺ อัลลอฮฺจะถอนเอาความคุชัวอ์ออกจากหัวใจ วันนี้มันมีแต่รูปคนเดิน เขาเรียกว่าศพเดินได้นะ แต่ไม่มีคุชัวอ์ คนมีความรู้แต่ว่าความรู้นั้นนะเอามาใช้ประโยชน์เกือบไม่ได้
Halal Life : อาจารย์ครับ บทบาทของครูที่ควรจะเป็นตั้งแต่ปัจจุบันนี่ควรจะเป็นอย่างไร
อ.มุสตอฟา – ผมว่านะครูจะต้องลอกเลียนแบบสุนนะห์นบี อย่างอื่นไม่มีทาง ถ้าไม่เอาสุนนะห์นบีมากำกับชีวิตนะ ครูคนนั้นสอนหนังสือไม่มีบะระกะฮ์ ต้องเอาสุนนะห์นบี
Halal Life : แล้วสุนนะห์นบีในการเป็นครูมีอะไรบ้าง
อ.มุสตอฟา – ข้อแรก เวลาเราจะสอนอะไรก็ตามแต่เราเป็นตัวแทนของท่านนบี ต้องนึกอย่างนี้ให้ตลอดเวลา เราเป็นตัวแทนของท่านนบีมาทำงานศาสนา ไม่ใช่ว่ารับเงินเดือนอย่างเดียว เราสอนหนังสือเพื่อหวังรางวัลตอบแทนจากอัลลอฮฺ สอง ผมถามว่าครูนะ เวลาขึ้นสอนไปสอนหนังสือ มีน้ำละหมาดไหม
Halal Life : ทำไมต้องมีน้ำละหมาดด้วยครับ ไปสอนหนังสือ ไม่ได้ไปละหมาดนี่ครับ
อ.มุสตอฟา : ก็ทำงานอะมัลที่ศอลิห์ ละหมาดก็มีน้ำละหมาดไม่อย่างนั้นละหมาดก็ใช้ไม่ได้ แต่ว่านบีก็ไม่ได้บังคับแต่เราเอาตามความรู้สึกส่วนตัวว่าเมื่อเราทำของที่ดีทำไมเราไม่มีน้ำละหมาด แล้วครูเคยขอดุอาอ์ให้ลูกศิษย์ไหม โอ้อัลลอฮ์ โปรดให้ลูกศิษย์ของฉันนี้เข้าใจคำพูดของฉันง่าย ๆ ครูเองเคยขอดุอาอ์ไหม ร็อบบิชเราะฮ์ลีศ็อดรี วะยัสสิรลีอัมรี วะห์ลุลอุกดะตัมมินลิสานี ยัฟเกาะฮูเกาลี
Halal Life : ที่ว่านี้ก็เป็นแนวทางที่อาจารย์ปฎิบัติ
อ.มุสตอฟา : ใช่ ๆ คนอื่นอาจจะไม่เอาอย่างนี้ก็ได้ไม่มีปัญหา แต่สำหรับผม ผมต้องมีน้ำละหมาดทุกครั้ง แม้ว่าผมจะอัดรายการทีวีนี่ก็ต้องอาบน้ำละหมาดก่อน แปรงฟันก่อนตามสุนนะห์นบี แล้วบางทีผมขอไปละหมาดก่อนสองเราะกะอะฮ์ อิมามบุคอรีนี่ทุกครั้งที่จะเขียนหะดีษหนึ่งหะดีษนี่ต้องละหมาดก่อนสองเราะกะอะฮ์ เราเรียนหะดีษจากอิมามบุคอรีมาตั้งหลายปี เราได้อะไรบ้างจากอิมามบุคอรี ไม่ใช่เอาเฉพาะความรู้อย่างเดียว เอาการปฏิบัติของท่านด้วย
Halal Life : อาจารย์ครับ แล้วอย่างนี้ทิศทางของนักวิชาการมุสลิมในปัจจุบันนี่ควรเป็นอย่างไร เพราะว่าเหมือนระหว่างการที่เราอยู่ในสังคมที่มีความหลากหลาย มีใหม่ มีเก่า มีใหม่มาก มีใหม่มากกว่า เราจะอยู่อย่างไร
อ.มุสตอฟา : คือผมว่านะ เราต้องอุมมะฮ์วาหิดะฮ์ อุมมะฮ์เดียวกันหมดแหละ แล้วอีกอย่างหนึ่งนบีพูดเองว่าอุมมะตีสะตัฟตะริกุ จะแบ่งแยกออกเป็น 73 กลุ่ม ก็อุมมะฮ์ของฉันนะ นบีบอกว่านี่ของฉันทั้งหมด แตกต่างกันก็ไม่มีปัญหา ถ้าอยู่เป็นญะมาอะฮ์ เก่ากับใหม่อยู่ด้วยกันได้ไหม ผมอยู่ได้ ผมนั่งได้สบายเลยไม่มีปัญหา เพราะมีงานที่ต้องทำเป็นญะมาอะฮ์เยอะแยะ
Halal Life : อ้าว แล้วจะอยู่ด้วยกันยังไงในเมื่อเรามองว่าที่เขาทำมันผิด
อ.มุสตอฟา : ค่อย ๆ บอกเขาซิ เราไปด่าเขาเขาจะเชื่อหรอ เมื่อคุณผิด ผิดอะไร อธิบาย ไม่ใช่เริ่มด้วยการด่าว่าคุณมันชาวนรก
Halal Life : เปลี่ยนจากการด่าเป็นการอธิบาย
อ.มุสตอฟา : คุยกันอธิบายกัน อย่าใช้อารมณ์ ก็นบีสั่ง อัดดีนุนนะศีหะฮ์ ศาสนาคือการต้องเตือน
Halal Life : คำว่าเตือนกับคำว่าด่าต่างกันยังไง
อ.มุสตอฟา : เวลาจะเตือนเราเรียกมาเตือนตัวต่อตัว คนที่มีอีมานคนที่มีศาสนาอยู่แล้วเข้าใจง่าย เคยขอดุอาอ์ให้กันไหม ขอดุอาอ์ลับหลังที่นบีสอน อย่าใช้เฉพาะขอให้พ่อให้แม่ให้เมียให้ลูก แล้วถ้าขอ ขอให้เขาเปลี่ยนแปลงนะ ผมอยากเห็นอุละมาอ์นี่อยู่รวมกันเป็นญะมาอะฮ์ อย่างที่อินเดีย เขาเป็นญะมาอะฮ์ทุกคณะทุกโรงเรียนทุกมหาวิทยาลัย ปีนึงเขาประชุมครั้งนึง แล้วมีนโยบายว่าภายในห้าปีนี้จะให้นักเรียนเรานี่เข้าใจอะไรที่ดีที่สุด ให้นักเรียนเข้าใจเรื่องอะไร เรื่องการเมือง เรื่องเศรษฐกิจ เรื่องอิสลาม เขามีเป้าหมายที่ชัดเจนนะ
Halal Life : อย่างนี้ก็ทิศทางของการพัฒนาคนนะเขาก็จะมีเป้าหมายมีทิศทางมียุทธศาสตร์
อ.มุสตอฟา : ใช่ มียุทธศาสตร์ ถ้าประเทศไทยเป็นอย่างนี้ได้จะดีมาก ไม่ต้องมาทั้งหมดหรอก เอาจังหวัดละคนสองคนสามคนมา เอาคนที่มีอัคลากดี ๆ มานั่งคุยกันแล้วก็เดี๋ยวเขาเอาไปเผยแผ่กันเองนั่นแหละ เคยมีอุละมาอ์อยู่คนหนึ่งแถวภาคใต้มานั่งคุยกับผม เขาว่าอุละมาอ์กรุงเทพก็เยอะ แต่ว่าทะเลาะกัน อุละมาอ์ภาคใต้นะมีไม่เยอะ แต่ว่าเขาอยู่เป็นญะมาอะฮ์ เขารวมกัน เราต้องเปลี่ยนมาขอดุอาอ์ให้กัน อย่าด่ากัน
Halal Life : คำว่าด่ากับคำว่าขอดุอาอ์ให้กัน สองคำนี้มันคนละขั้วกันเลย
อ.มุสตอฟา : ไปคนละทางเลยนะ ขอดุอาอ์ให้กัน ต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน ต้องให้เกียรติรุ่นพี่ ตักเตือนกัน ทำไมต้องตักเตือนทางอากาศนะ ก็โทรศัพท์คุยกันซิ เฮ้ย ท่านผิดนะ อะไรอย่างนี้ ถ้าเราเตือนกลางอากาศนี่ คนที่รับคำเตือนก็ต้องมีกำแพงแล้ว
เรื่อง : ดาวุด ลาวัง
ตีพิมพ์ใน Halal Life Magazine ฉบับที่ 24