ซาอุดีอาระเบียได้มอบเช็คมูลค่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.19 พันล้านบาท) ให้แก่ บัน คีมูน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) วานนี้ (13 ส.ค.) เพื่อสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์ต่อต้านการก่อการร้ายสากลของยูเอ็น
เลขาธิการยูเอ็นได้แสดงความยินดีต่อของขวัญชิ้นนี้ในพิธี ซึ่งจัดขึ้นที่สำนักงานของเขา และกล่าวว่าการก่อการร้ายที่เพิ่มขึ้นในหลายประเทศ และหลายภูมิภาคอย่างรวดเร็วเมื่อไม่นานมานี้ และการเข้ายึดครองพื้นที่อันกว้างใหญ่ของอิรักและซีเรียโดยกลุ่ม “รัฐอิสลาม” (IS) “ได้สะท้อนให้เห็นปัญหาท้าทายที่เราต้องเผชิญ”
อาดิ้ล อัล-ญูบิร เอกอัครราชทูตซาอุดีอาระเบียประจำสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตัวแทนมอบเช็คใบนี้ร่วมกับเอกอัครราชทูตซาอุดีอาระเบียประจำสหประชาชาติ เน้นย้ำว่า “การก่อการร้ายคือหายนะและความเลวทรามที่ส่งผลร้ายต่อเราทุกคน” โดยเขาชี้ว่า หนทางเดียวที่จะจัดการภัยคุกคามนี้ได้คือ ทุกประเทศและทุกคนต้องร่วมมือกัน
อัล-ญูบิร กล่าวว่า “เราเชื่อว่าองค์การสหประชาชาติสามารถแสดงบทบาทอันเข้มแข็งและมีประสิทธิภาพอย่างยิ่ง ในการระดมความพยายามจากทั่วโลก เพื่อต่อสู้กับความชั่วร้ายรูปแบบนี้”
เขากล่าวว่า “ลัทธิก่อการร้ายไม่มีศาสนา ไม่มีชาติพันธุ์ ไม่มีสัญชาติ ไม่มีมนุษยธรรม ไร้ความเมตตาและความยุติธรรม (การก่อการร้าย) เป็นการละเมิดหลักการของทุกศาสนาในโลก และเป็นหายนะที่ต้องถูกกำจัดด้วยมาตรการนานาชาติอันแข็งแกร่งและรุนแรง”
เมื่อเกือบ 10 ปีที่แล้ว พระราชาธิบดี อับดุลเลาะห์ แห่งซาอุดีอาระเบีย ได้เรียกร้องให้ก่อตั้งศูนย์ต่อต้านการก่อการร้ายสากล และข้อเสนอดังกล่าวก็ได้รับการขานรับจาก 55 ประเทศ ในที่ประชุมต่อต้านการก่อการร้าย ณ กรุงริยาด ของซาอุดีอาระเบีย เมื่อปี 2005 โดยพระราชาธิบดีทรงให้คำมั่นว่า จะบริจาคเงิน 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.19 แสนล้านบาท) เพื่อก่อตั้งศูนย์ต่อต้านการก่อการร้ายแห่งสหประชาชาติ ซึ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ที่สำนักงานใหญ่ของยูเอ็น ในนครนิวยอร์ก ไปเมื่อปี 2011
อัล-ญูบิรกล่าวว่า เงินบริจาค 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐก้อนนี้จะช่วยพัฒนาเครื่องมือ, เทคโนโลยี และวิธีการให้ประเทศต่างๆ ใช้รับมือกำจัดภัยคุกคามจากลัทธิก่อการร้าย
ด้านนาย บัน คีมูน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ กล่าวว่า สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติได้กระตุ้นให้ชาติสมาชิก 193 ประเทศสนับสนุนภารกิจของศูนย์แห่งนี้ “และสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร และเยอรมนีก็ออกมาตอบสนองต่อคำเรียกร้องนี้”
นอกจากนี้ เลขาธิการของยูเอ็นยังกล่าวยกย่องพระราชาธิบดีอับดุลเลาะห์ ที่พระองค์ “ทรงมีน้ำพระทัยอย่างล้นพ้น” โดยทรงพระราชทานความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม เพื่อช่วยชีวิตชาวอิรักที่ถูกกลุ่มติดอาวุธ “รัฐอิสลาม” ปิดล้อมโจมตี พร้อมทั้งกล่าวว่า น้ำพระทัยของพระองค์แสดงให้เห็นถึง “ความสามัคคีระดับโลก”
กษัตริย์อับดุลเลาะห์ พระราชทานเงินบริจาครอบนี้ภายหลังเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม ซาอุดีอาระเบียได้ทำให้โลกการทูตต้องตะลึงงันด้วยการบอกปัดไม่รับตำแหน่งคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน หลังจากราชอาณาจักรเศรษฐีน้ำมันแห่งนี้ได้รับเลือกได้ไม่ถึง 24 ชั่วโมง โดยกระทรวงการต่างประเทศซาอุฯ ได้กล่าวหาว่าคณะผู้แทนที่มีอำนาจมากที่สุดของยูเอ็นชุดนี้ ล้มเหลวในการยุติสงครามซีเรีย และแก้ไขวิกฤตขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ ทั้งยังไม่สามารถจัดการประชุมว่าด้วยการประกาศเขตปลอดอาวุธอานุภาพทำลายล้างสูงในภูมิภาคตะวันออกกลาง
ที่มา : manager.co.th
[bws_related_posts]
